“เชาว์” ฟาด "ปศุสัตว์" ดันราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มพุ่งถึง 3 บาท ชี้ฟาร์มใหญ่ฟันกำไรไม่ต่ำกว่าวันละล้าน ขณะที่ปชช.ไม่มีเงินติดกระเป๋าแม้แต่บาทเดียวจากพิษโควิด วอนปรับนโยบายใหม่ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ Facebook Chao Meekhuad เรื่อง ดันราคาไข่ไก่ขึ้น วันนี้ ไข่คละหน้าฟาร์ม 3 บาทแล้ว ผู้ประกอบการอยู่ได้ ผู้บริโภคเดือดร้อน มีเนื้อหาระบุว่าก่อนจะลงรายละเอียดในเรื่องนี้ ขอสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนก่อนว่า ผมไม่ได้รังเกียจที่เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่จะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่การดันราคาขึ้นตามนโยบายของกรมปศุสัตว์ ต้องให้สัมพันธ์กับต้นทุนและไม่ให้เป็นภาระต่อผู้บริโภคมากเกินความจำเป็น โดยกว่าสองเดือนที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ออกนโยบายให้ฟาร์มไก่ไข่ขนาดใหญ่ ปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง อายุ 75 สัปดาห์ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม ปลดแม่ไก่ไข่ได้รวม 2.78 ล้านตัวจากเป้าหมาย 3 ล้านตัว ซึ่งส่งผลให้ภายในระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน ไข่ไก่เริ่มปรับขึ้นจาก 2.50 บาท เป็น 2.70 สตางค์ ในวันที่ 5 พฤษภาคม และเพิ่มอีก 20 สตางค์ เป็น 2.90 ในวันที่ 12 พฤษภาคม ก่อนขยับเป็น 3 บาท ในวันนี้(2 มิ.ย.) ทำให้ราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่แผงละ 90 บาท เพิ่มจากเดิมอีก 3 บาท นายเชาว์ ระบุด้วยว่า ไม่ทราบว่า กรมปศุสัตว์ที่คำนึงถึงแต่เสถียรภาพราคาไข่ไก่ อ้างความเดือดร้อนของเกษตรกรมากำหนดนโยบายปลดแม่ไก่ไข่ยืนกรง เพื่อลดปริมาณไข่ไก่ในตลาด เคยคำนวณต้นทุนไข่ไก่อย่างจริงจังหรือไม่ เพื่อให้มีความสัมพันธ์กับราคาที่จะปรับขึ้น จากข้อมูลที่ผมได้รับราคาต้นทุนสำหรับฟาร์มขนาดใหญ่ที่ผลิตอาหารสัตว์เองเต็มที่ไม่เกินฟองละ 2 บาท ส่วนฟาร์มที่ต้องซื้ออาหารสัตว์ มีต้นทุนที่สูงกว่า ถ้าเอาราคาตามที่มีเกษตรกรภาคกลางออกมาให้ข่าวไว้ จะอยู่ที่ 2.65 บาท ตอนนี้ราคาขึ้นเป็น 3 บาท เท่ากับมีกำไรฟองละ 35 สตางค์ ฟาร์มหนึ่งถ้าผลิตไข่ไก่ได้ 1 แสนฟองต่อวัน จะมีกำไรวันละ 35,000 บาทส่วนฟาร์มขนาดใหญ่ที่มีผลผลิตไม่ต่ำกว่า 1 ล้านฟองต่อวันจากต้นทุน 2 บาท จะมีกำไรอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อวัน “นี่เป็นสมการราคาที่สมเหตุสมผลแล้วหรือครับ ยังไม่นับว่าต้นทุนที่แท้จริงอาจต่ำกว่าที่ผมระบุเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งรายได้ของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่คุมส่วนแบ่งตลาดไข่ไก่ ไม่ได้มีเพียงแค่การขายไข่ไก่เท่านั้น ยังมีรายได้จากการขายลูกไข่ไก่ ไก่ไข่ที่ปลดระวาง ไปจนถึงการขายอาหารสัตว์ด้วย การที่ภาครัฐบอกว่าจะตรึงราคาไม่ให้เกิน 3 บาท เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนนั้น ผมคิดว่าเป็นนโยบายที่ผิดพลาด คิดถึงแต่กำไรของผู้ประกอบการ ไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่กำลังประสบทุกข์แสนสาหัสในเวลานี้ เพราะในขณะที่มีบางผู้ประกอบการอาจสร้างกำไรได้ถึงวันละ 1 ล้านบาท ชาวบ้านบางคนอาจไม่มีเงินสักบาทติดตัว จากพิษภัยของโรคระบาดโควิดที่กำลังรุมเร้าในขณะนี้ ปรับนโยบายใหม่เถอะครับ ผมคิดว่าราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์ม ไม่ควรเกิน 2.80 บาทเกษตรกรอยู่ได้ ประชาชนไม่เดือดร้อนครับ”นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย