เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ต่อมานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ชี้แจงว่า ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดในช่วงเวลาหนึ่งจะมีอัตราต่ำ แต่เมื่อพิจารณาผลงาน เช่น การขายผลไม้ที่ผ่านมาพบว่าสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศจำนวนมาก ส่วนกรณีที่พบปัญหาการลักลอบนำเข้าผลิตผลจากต่างประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลได้สั่งการเร่งแก้ไขทันที
ด้านน.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงว่า การปรับลดงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการลงกว่า 2.4 หมื่นล้านบาท เป็นงบอุดหนุนรายหัวของนักเรียนลดลงตามอัตราจำนวนประชากร ภายใต้งบประมาณที่ลดลง กระทรวงศึกษาเน้นคุณภาพของผู้เรียน ลดภาระที่ไม่จำเป็น รวมถึงนำเทคโนโลยีบริหารจัดการการศึกษา ทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเพื่อลดภาระทางงบประมาณ ทั้งนี้ตามนโยบายของรัฐบาลเตรียมยกระดับคุณภาพของสถาบันศึกษา ทั้งโรงเรียนดีประจำตำบล โรงเรียนดีสี่มุมเมือง และโรงเรียนสแตนอโลน เพื่อนำงบประมาณจัดสรรให้เยาวชนและผู้เรียนเข้าถึงการศึกษาได้มากที่สุด และจัดสรรดูงบเพื่อดูแลสถานศึกษาได้ทั่วถึง สำหรับการเปิดเทอมในสถานการณ์ระบาดของโควิดได้มอบหมายให้เขตพื้นที่การศึกษา รวมถึงผู้อำนวยการศึกษาจัดให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภายใต้ความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เช่น จัดการเรียนการสอนที่มากกว่า 1 รูปแบบ เช่น เรียนตามการเรียนการสอนปกติ, เรียนออนไลน์, เรียนผ่านระบบออนแอร์ และมีการพัฒนาครูผ่านระบบครูพร้อม
“กระทรวงศึกษามีมาตรการ ให้มีความพร้อมป้องกันโควิด-19 มีวอร์รูมของกระทรวงศึกษา สนับสนุนการเรียนการสอนของผู้ปกครองและนักเรียน เพื่อแก้ปัญหาการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์โควิด-19” น.ส.ตรีนุช กล่าว
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงวา ในพื้นที่ท่องเที่ยวต้องฉีดวัคซีนให้คนในพื้นที่ 70% ภายในเดือนมิ.ย.นี้ คาดว่าจะเดินหน้าได้แน่นอน และโครงการต่อไป ในวันที่ 1 ต.ค. จะเปิดแหล่งท่องเที่ยวใน 10 จังหวัด โดยไม่กักตัว ได้แก่ เชียงใหม่ กรุงเทพ ประจวบคิรีขันธ์ เพชรบุรี ชลบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ พังงา และบุรีรัมย์ เพราะพบว่าใน 10 จังหวัดมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ในปี 2562 ถึง 1.5 ล้านล้านบาท ทั้งนี้จะประกาศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนำร่อง ได้ตั้งแต่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค. ส่วนมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยวเร็วๆ นี้ จะมีโครงการทัวร์เที่ยวไทย เตรียมประกาศหลังการแพร่ระบาดโควิดสิ้นสุดลง “ 1 ล้านคน การทัวร์เที่ยวไทย” จัดการท่องเที่ยวโดยบริษัททัวร์ มีมัคคุเทศก์ประจำรถ เพื่อส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวให้หมุนเวียน และเกิดการท่องเที่ยววันธรรมดา ทั้งนี้โครงการกำลังใจ และโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่ดำเนินการแล้ว ทำให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ กว่า 6.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่รัฐบาลสนับสนุนเงิน ไปเพียง 9,320 ล้านบาท
จากนั้น นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า ขณะนี้ประชาชนตั้งคำถาม ทำไมรัฐบาลนำงบประมาณไปจัดหาวัคซีนที่แย่และแพงที่สุด โดยยังไม่รู้ว่ายังมีวัคซีนเพียงพอหรือไม่ เพราะนำงบประมาณไปเน้นที่กองทัพในการจัดซื้ออาวุธ ทั้งที่ถ้าเทียบสมรรถนะการรบแล้ว ประเทศไทยเหนือกว่า ประเทศที่มีพรมแดนติดกันทั้ง4ประเทศได้แก่ พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย โดยประเทศไทยมีจำนวนกองรถถัง กองเรือ และกองบิน เหนือกว่าทุกประเทศที่มีพรมแดนติดกัน สมรรถนะการรบประเทศไทยอันดับที่ 26 ของโลก พม่าอยู่ลำดับที่ 38 กัมพูชา ลำดับที่ 94 ลาว ลำดับที่ 118 และมาเลเซีย ลำดับที่ 44 เรามีศักยภาพ กำลังรบเข้มแข็งที่สุดในประเทศที่มีพรมแดนติดกัน จะไปจัดซื้ออาวุธเพิ่มทำไมให้มากมายอีก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้เป็นผบ.ทบ.แล้ว แต่เป็นนายกฯ จะไปดูแลหรือเดือดร้อนแทนกองทัพอย่างเดียวไม่ได้ ขอให้หยุดขี้เหนียวกับประชาชน หยุดซื้อเรือดำน้ำไว้ก่อน เพื่อมาดูแลความเป็นอยู่ประชาชนก่อน ถ้ายังปล่อยให้รัฐบาลจัดทำงบประมาณลักษณะเช่นนี้ต่อไป คงได้เปลี่ยนเงินสดเป็นแบงก์กงเต็กแน่