จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเมื่อวันที่ 28 พ.ค.มียอดผู้ติดเชื้อสูงสุดกว่า 8 พันคน ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ที่มีความรุนแรงที่อัตราการติดเชื้อสูงและรวดเร็ว ทำให้มาเลเซียเตรียมประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง เป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่ วันที่ 1 -14 มิ.ย. 64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศ
โดยผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า บริเวณชายแดนไทย ด้าน จ.ยะลา กองกำลังเทพสตรี ประสานกำลัง ทหาร ตำรวจตระเวณชายแดนจากชุดเฝ้าตรวจชายแดน ลาดตระเวนเฝ้าระวังชายแดนไทย - มาเลเซีย อย่างเข้มงวด โดยวันนี้ (29 พ.ค.2564) พลตรี ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ได้ลงตรวจเยี่ยมเน้นย้ำการทำงานชุดเฝ้าตรวจชายแดน กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 4401 ต.บาละ อ.กาบัง ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4402 ต.ปะแต อ.ยะหา ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4403 ต.ถ้ำทะลุ อ.บันนังสตา และ ชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4404 บ้านดินเสมอ ต.คีรีเขต อ.ธารโต ซึ่งเป็นจุดตรวจร่วมไทย-มาเลเซีย ที่มีฐานปฏิบัติการตั้งอยู่ร่วมกับทหารมาเลเซีย
ซึ่งผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ได้เน้นย้ำการปฏิบัติของชุดเฝ้าตรวจแนวชายแดน ให้เข้มงวดลาดตระเวน จัดระเบียบพื้นที่ชายแดน ย้ำดูแลพื้นที่ชายแดนพร้อมสนับสนุนงานมั่นคงดูแลความปลอดภัยพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องไม่ประมาท มีความพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา นอกจากนี้ต้องประสานการทำงานกับ กำลังป้องกันชายแดน ทหารพราน ที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งพัฒนาสัมพันธ์กับประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ก่อนจะไปเยี่ยมฐานปฏิบัติการทหารมาเลเซีย พร้อมนำหน้ากากอนามัย สเปรย์ เจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบเพื่อเป็นขวัญกำลังใจสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4405 และ 4406 ต.เบตง จ.ยะลา ตามลำดับ
ทั้งนี้ พลตรีศานติ ยังกล่าวต่อว่า หลังทราบข่าวการเตรียมล๊อคดาวน์ทั้งประเทศของมาเลเซีย ทางพลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้สั่งการให้ตรวจเยี่ยม พร้อมเน้นย้ำกำลังป้องกันแนวชายแดน เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ตามแนวชายแดน ทั้งนี้ การเฝ้าตรวจชายแดนไทย - มาเลเซีย อยู่ในความดูแลของกองกำลังเทพสตรี มีทั้งกำลังทหาร และ กำลังของตำรวจตระเวณชายแดนทั้งหมด 30 ชุดเฝ้าตรวจในพื้นที่ภาคใต้
สำหรับชายแดนฝั่ง จ.ยะลา แม้จะพบการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองน้อย แต่มักมีชาวบ้านเดินทางข้ามไป เพื่อหาของป่า ยังฝั่งมาเลเซียอยู่บ่อยครั้ง จึงต้องทำความเข้าใจกับผู้นำท้องถิ่น ประชาชน เพื่อแจ้งเตือนชาวบ้านไม่ให้ข้ามไปหาของป่า ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 อย่างหนัก อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอาจมีความเสี่ยงที่จะไปพบปะหรือสัมผัสกับเชื้อกลับมาได้ ประกอบกับจะมีการล๊อคดาวน์ทั้งประเทศในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ อาจทำให้มีผู้แอบลับลอบข้ามกลับมาผ่านช่องทางธรรมชาติมากขึ้น จึงต้องมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ให้พร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ