วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะประธานโครงการหัวหิน รีชาร์ท (Hua Hin Recharge) ภาครัฐ กล่าวว่าโครงการหัวหิน รีชาร์ท เป็นความร่วมมือของภาครัฐ โรงพยาบาลและสาธารณสุข และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า สมาคม และการบริการในพื้นที่เทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ “หัวหิน” เป็นพื้นที่นำร่องในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแบบไม่กักตัวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป และเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและการจ้างงานทั้งในพื้นที่และภาพรวมของประเทศ เป้าหมายการได้รับการจัดสรรวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้บุคคลากรทางการแพทย์ฯ ผู้ทำงานในธุรกิจการบริการได้รับการฉีดวัคซีน 100% และประชาชนภายในพื้นที่ 70% ภายในวันที่ 30 กันยายน 64 โดยมีกำลังหลักได้แก่ โรงพยาบาลหัวหิน โรงพยาบาลซานเปาโล โรงพยาบาลกรุงเทพฯ-หัวหิน รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขอีกกว่า 400 คน ในการให้บริการวัคซีน พร้อมกันนี้ชวนประชาชนติดตามเพจ Hua Hin Recharge หรือสแกนคิวร์อาร์โค้ดเพื่อทราบข้อมูลต่างๆ สถานที่การลงทะเบียนเพื่อเตรียมพร้อมรับวัคซีน
โดย นายกรด โรจนเสถียร กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและนายกสมาคมสปาไทย ประธานโครงการภาคเอกชน กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ททช.) เห็นชอบให้ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส เข้ามาท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 64 สอดคล้องกับการทำโครงการหัวหินรีชาร์ท โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวมีนโยบายฉีดวัคซีนให้ประชาชนและบุคลากรในธุรกิจการท่องเที่ยวครอบคลุมพื้นที่ อ.หัวหิน อ.ปราณบุรี และ อ.ชะอำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในวงกว้าง การฉีดวัคซีนจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายออกมาฉีดวัคซีนให้เต็มที่ และต้องทำความเข้าใจว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันภาครัฐจะต้องกระจายวัคซีนไปพื้นที่อื่นด้วย ดังนั้นหากมีโอกาสแล้วก็ขอให้ฉีดเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้มากที่สุด
ด้าน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ กล่าวว่า หากเป็นไปตามกำหนดเมืองหัวหินจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวได้ ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 4 เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2564 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท และมีการจ้างงานในภาคธุรกิจบริการอีกเกือบ 100,000 คน
สำหรับ อ. หัวหิน มีชาวต่างชาติ เข้ามาพำนักระยะยาวและวัยเกษียณอายุพักอาศัยจำนวนมาก การกักตัวถือเป็นอุปสรรคที่ทำให้การเดินทางของญาติมิตรชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาสร้างรายได้แก่พื้นที่หดหายไป โดยภาคเอกชนหัวหินได้รับข้อมูลจากคู่ค้าบริษัททัวร์รายใหญ่ในต่างประเทศว่า ลูกค้าชาวต่างชาติมีความประสงค์ที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่หัวหิน หากยกเลิกการกักตัว
ขณะที่ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงนามในประกาศคำสั่งจังหวัดผ่อนคลายให้โรงภาพยนตร์สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดอย่างเข้มงวดโดยพนักงานต้องแต่งกายโดยมิดชิด ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ถุงมือ รวมทั้งต้องสวมใส่เฟซชีลตลอดระยะเวลาที่ให้บริการลูกค้าจัดให้มีการเว้นระยะห่างของที่นั่งภายในโรงภาพยนตร์ในรูปแบบ 2 ที่นั่ง เว้น 2 ที่นั่ง และยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจเชิงรุก โรงงาน สถานประกอบการทุกอำเภอ เพื่อสุ่มตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อโควิด-19 และขอให้นายจ้างงดการรับแรงงานใหม่ทั้งคนไทยและคนต่างด้าวชั่วคราว เพื่อป้องกันความเสี่ยงการแพร่เชื้อ
ทั้งนี้สถานการณ์โรคโควิด-19 จ.ประจวบคีรีขันธ์ (29 พ.ค.64) มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่เป็นคนไทยทั้งหมด 13 คน มี 10 คนเป็นพนักงานในโรงงานสับปะรดกระป๋องของบริษัทโดลไทยแลนด์ จำกัด ที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมในโรงงาน 95 คน โดย สสจ.ประจวบฯ ยืนยันว่ายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ส่วนการกักตัวแรงงานเมียนมายังไม่มีปัญหาเรื่องสถานที่และอาหาร โดยโรงงานสับปะรดกระป๋องโดลฯ จัดกิจกรรมบิ๊ก คลีนนิ่ง ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอหัวหิน เทศบาลตำบลหนองพลับ รพ.สต.หนองพลับ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่.
อุดมศักดิ์ นิ่มเซียน.หัวหิน/ประจวบฯ