“คมนาคม” จัดให้ ผลักดัน “รถยนต์ส่วนบุคคล” ให้บริการรับจ้างผ่านแอปฯถูกกฎหมาย "ศักดิ์สยาม" เตรียมจุดพลุภายใน ก.ค.นี้ อัพเกรดระบบขนส่งสาธารณะไทย พร้อมเพิ่มทางเลือกการเดินทาง “สะดวก-รวดเร็ว-ปลอดภัย” และ สร้างรายได้ให้ประชาชน
นับเป็นเวลา 1 ปี 10 เดือนของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ บนเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ที่สามารถผลักดันนโยบายให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันอย่างถูกกฎหมาย ที่พึ่งผ่านมติครม.จนเป็นผลสำเร็จไปหมาดๆ และถือเป็นนโยบายหาเสียงเด็ดของ พรรคคนเลือดน้ำเงิน ที่ต้องการยกระดับการคมนาคมขนส่งของประชาชนในเขตเมืองกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศให้ดียิ่งขึ้นเทียบเท่าทั่วโลก
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ครม. มีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถรับจ้างบรรทุกผู้โดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิสก์ พ.ศ. …. โดยเป็นการอนุญาตให้รถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้าง โดยการรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เป็นทางเลือกสำหรับประชาชนในการให้บริการ และส่งเสริมให้ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว สามารถประกอบอาชีพได้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
เหตุผลและความจำเป็นในการออกร่างกฎกระทรวงดังกล่าวนั้น สืบเนื่องจากปัจจุบันการให้บริการการเดินทางโดยการเรียกใช้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นที่นิยมของประชาชน ซึ่งรถยนต์ที่นำมาให้บริการบางส่วนยังไม่สามารถนำมาจดทะเบียนได้ตามประเภทที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น จึงเห็นสมควรกำหนดให้มีรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ขึ้นอีกแบบหนึ่งของรถยนต์รับจ้าง
“นายศักดิ์สยาม” ออกมาให้ความกระจ่าง รวมถึงขั้นตอนว่า หลังจากนี้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะเร่งดำเนินการออกประกาศหรือระเบียบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (แอปพลิเคชัน) เช่น การกำหนดอัตราค่าโดยสารสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์, หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองระบบอิเล็กทรอนิกส์
ไม่เพียงเท่านั้น ผู้ให้บริการระบบอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องหมายสำหรับรถยนต์รับจ้างทางเลือกผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์, หลักเกณฑ์และวิธีการวัดกำลังของเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้า, เงื่อนไขและขั้นตอนในการจดทะเบียนรถยนต์รับจ้างทางเลือกดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนที่มีความประสงค์ที่จะประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้างทางเลือกสามารถไปสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ ขบ. รับรอง
นอกจากนี้ ติดตั้งแอปพลิเคชันที่ใช้ในการให้บริการ นำหลักฐานต่างๆ พร้อมรถยนต์ส่วนบุคคลมาเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง ก่อนออกให้บริการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้กำหนดกรอบระยะเวลาให้กรมการขนส่งทางบกเร่งดำเนินการรถยนต์รับจ้างทางเลือกผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งต้องดำเนินการออกประกาศและระเบียบที่เกี่ยวข้องทันทีภายหลังกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับภายใน ก.ค. 2564
โดยผู้ให้บริการแอปพลิเคชันต้องมายื่นขอรับรองและเมื่อได้รับการรับรองแล้ว จึงจะสามารถดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะขับรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งได้กำชับให้กรมการขนส่งทางบกเร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการแท็กซี่และประชาสัมพันธ์ถึงการขั้นตอนการดำเนินการให้ชัดเจน
ขณะเดียวกัน "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม" ยังมีความเป็นด้านความปลอดภัย ทั้งผู้ให้บริการ และผู้โดยสาร จึงได้เร่งรัดให้ ขบ. พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับเป็นทางเลือกให้รถแท็กซี่ใช้แทน GPS ให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ ภายในเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งนอกจากจะลดภาระค่าใช้จ่ายแล้วเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ให้กับผู้ขับรถแท็กซี่ด้วย เนื่องจากแอปพลิเคชันที่อยู่ระหว่างพัฒนานั้น ผู้โดยสารสามารถเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันได้ โดยมี ขบ.ทำหน้าที่ควบคุม ตรวจสอบ และติดตามรถแท็กซี่เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
สำหรับรายละเอียดในการดำเนินการของรถยนต์ส่วนบุคคลมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างนั้น จะใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเดิม โดยให้นายทะเบียนเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียน เป็นรถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในใบคู่มือจดทะเบียนรถ ขณะที่ ตัวรถ จะต้องมีอายุใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.ขนาดเล็ก (เครื่องยนต์ 50-90 kW) เช่น March, Vios, City, Mirrage เป็นต้น
2.ขนาดกลาง (เครื่องยนต์ 90-120 kW) เช่น Altis, Civicเป็นต้น และ 3.ขนาดใหญ่ (เครื่องยนต์มากกว่า 120 kW) เช่น Accord, Fortuner เป็นต้น ทั้งนี้ จะมีลักษณะเป็นรถเก๋ง, แวน สองตอน หรือสามตอนก็ได้ โดยจะต้องมีการทำประกันภัยเพิ่มเติมคุ้มครองสวัสดิภาพของผู้โดยสาร และติดเครื่องหมายแสดงการใช้แอปพลิเคชันด้วย
ในส่วนของคนขับรถนั้น กำหนดให้จะต้องมีใบขับขี่สาธารณะ และผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และใช้แอปพลิเคชันของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันที่ผ่านการรับรองจาก ขบ. ขณะที่ อัตราค่าโดยสาร จะแบ่งเป็น รถขนาดเล็ก, กลาง มีค่าโดยสารไม่เกินอัตราของรถแท็กซี่ในปัจจุบัน ด้านรถขนาดใหญ่ มีค่าโดยสารไม่เกินอัตราของรถแท็กซี่ VIP ในปัจจุบัน โดยสามารถมีค่าบริการเพิ่มเติมกรณีอื่นได้ แต่ต้องไม่เกิน 200 บาท ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ จะเป็นผู้ประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสาร
ขณะที่แอปพลิเคชัน จะต้องเป็นแอปพลิเคชันสําหรับเรียกใช้บริการรถยนต์รับจ้างฯ ในส่วนของผู้ขับรถ (Driver Application) จะต้องมีระบบยืนยันตัวตน เช่น Pin Code, Fingerprint, Face Scan เป็นต้น อีกทั้งมีระบบคํานวณเส้นทาง ระยะเวลา และค่าโดยสารโดยประมาณ มีระบบรับส่งข้อความ/โทรศัพท์กับผู้โดยสารในส่วนของผู้โดยสาร (Passenger Application) จะมีระบบลงทะเบียนผู้โดยสาร ระบบเรียกใช้งานรถยนต์รับจ้างแบบทันทีและแบบจองล่วงหน้า รวมถึงมีระบบคํานวณเส้นทาง ระยะเวลา และค่าโดยสารโดยประมาณ ระบบประเมินความพึงพอใจต่อผู้ขับรถ และระบบแจ้งเหตุฉุกเฉิน
ส่วนคุณสมบัติของผู้ให้บริการแอปพลิเคชันนั้น จะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนตามที่กำหนดในประกาศ (ไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท) และต้องมีสถานที่ประกอบการในประเทศไทย รวมถึงมีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนในการได้รับอนุญาตเป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมายของ ขบ.
นับเป็นความสำเร็จ ของกระทรวงคมนาคม ภายใต้การขับเคลื่อนของ "นายศักดิ์สยาม" ที่สามารถยกระดับการให้บริการคมนาคมขนส่งสาธารณะแล้ว ยังอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน