นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเด็นการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลอยากให้กระจายให้กับประชาชนโดยเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มที่ลงทะเบียนแล้ว เพราะการสร้างภูมิกันหมู่ด้วยการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงฉีดให้คนไทย70% ภายในปีนี้ยังคงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและขับเคลื่อนไปได้เช่นเดียวกับต่างประเทศ ในประเทศสำคัญที่มีการฉีดทั่วถึง ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ ซึ่งความต้องการวัคซีนในภาคอุตสาหกรรมถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะเป็นฟันเฟืองหลักในการผลักดันเศรษฐกิจไทยเพื่อการส่งออก ในช่วงภาคการค้า บริการ ยังสะดุด ภาคการท่องเที่ยวหยุดนิ่ง อย่างไรก็ตามภาคอุตสาหกรรมที่เน้นผลิตเพื่อส่งออกจึงจำเป็นระมัดระวังไม่ให้พนักงานโรงงานติดโควิด-19 หากติดเพียง1คน จะกระทบสายการผลิตทันที โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร อาหารแปรรูปมีความอ่อนไหวมาก บวกกับปัจจุบันการตรวจโรงงานจากลูกค้าต่างชาติก็ตั้งคำถามถึงการฉีดวัคซีน จึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ผู้ประกอบการประเมินแล้วว่าแม้จะเสียเงินปริมาณมากกับวัคซีนทางเลือก แต่คุ้มค่ากว่าและปลอดภัยที่สุดในเวลานี้ ดังนั้นหลังจากที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ประสบความสำเร็จในการเตรียมนำเข้าวัคซีนยี่ห้อซิโนฟาร์ม จึงเป็นข่าวดีสำหรับภาคอุตสาหกรรม เพราะที่ผ่าน ส.อ.ท.มีความต้องการวัคซีนทางเลือกเพื่อฉีดให้กับแรงงานในระบบประมาณ 1 ล้านคน เอกชนพร้อมจ่าย จึงได้ประสานกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ในการจัดหา เบื้องต้นคาดว่าล็อตแรกที่จะนำเข้ามาประมาณ 1 ล้านโดส น่าจะแบ่งให้ส.อ.ท.ได้ประมาณ 3 แสนโดส ขณะที่ราคารวมค่าประกันและอื่นๆทั้งหมด น่าจะอยู่ที่โดสละประมาณ 20-30 เหรียญสหรัฐ