โอละพ่อ ย้อนดูประวัติ "ธิเบต" ลักทรัพย์เป็นอาชีพ เป็นที่เอือมระอาของคนในชุมชน ชุดจับแจงไม่ได้แถลงข่าว
วันที่ 28 พ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก ได้ทำการจับกุม ผู้ต้องหาลักทรัพย์ และมี ภาพการจับกุม ผู้ต้องหา คดีลักทรัพย์ ปรากฏเผยแพร่ในสื่อ โซเชียล ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ ในการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ากระทำเกินกว่าเหตุ (มีการแถลงข่าว)เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก นำโดย ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เครือทอง รอง สวป.ฯ ปฏิบัติหน้าที่ ชุดสืบสวน ได้ทำการจับกุม นายธิเบต อินทรส อายุ 19 ปี พร้อมด้วยของกลาง อาหาร 10 รายการ พร้อมรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการลักทรัพย์ โดยแจ้งข้อกล่าวหา ว่า “ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ
สืบเนื่องจากการเข้าร้องทุกข์ ของร้านสะดวกซื้อ มินิมาท จำนวนหลายร้าน ในพื้นที่ เวียงบัว ต.ช้างเผือก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวน ติดตามจากกล้องวงจร ปิด และรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการกระทำความผิด ต่อมาได้พบผู้ก่อเหตุ มีลักษณะ ตรงตามพยานหลักฐาน จึงได้ทำการจับกุมและรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ
ต่อมาปรากฎว่ามีภาพถ่ายในลักษณะที่จัดผู้ต้องหาถ่ายภาพรวมกับของกลาง แล้วเผยแพร่ไปในสื่อโซเชี่ยล ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนเข้าใจผิด ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทาง สภ.ช้างเผือก ขอนำเรียนชี้แจงว่า ภาพที่เกิดขึ้น เนื่องจาก เมื่อจับกุมผู้ต้องหาได้เรียบร้อย มีการทำบันทึกและรายงานเหตุตามขั้นตอน( ภายในหน่วยงาน ) มีการนำตัวผู้ต้องหามาทำประวัติ เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวยาเสพติด มักนำน้ำอัดลมที่ขโมยมาผสมยาฯทาน และมีพฤติกรรมตระเวณลักขโมยทรัพยืสินของชาวบ้านบ่อยครั้งแม้ ทั้งภายในวัด ก็ไม่เว้นขโมยโทรศัพท์มือถือ เงิน และมินิมาท ร้านสะดวกซื้อ ทั่วเมืองเชียงใหม่ ผู้พักอาศัยบ้านใกล้เรือนเคียง จนสังคมเกิดความเดือดร้อนและเอื่อมระอาจากพฤติกรรม จึงต้องมาพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนจับมาดำเนินคดีให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในชุมชนต่อไป.
สืบเนื่องจากการเข้าร้องทุกข์ ของร้านสะดวกซื้อ มินิมาท จำนวนหลายร้าน ในพื้นที่ เวียงบัว ต.ช้างเผือก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวน ติดตามจากกล้องวงจร ปิด และรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการกระทำความผิด ต่อมาได้พบผู้ก่อเหตุ มีลักษณะ ตรงตามพยานหลักฐาน จึงได้ทำการจับกุมและรายงานเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ
ต่อมาปรากฎว่ามีภาพถ่ายในลักษณะที่จัดผู้ต้องหาถ่ายภาพรวมกับของกลาง แล้วเผยแพร่ไปในสื่อโซเชี่ยล ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนเข้าใจผิด ในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทาง สภ.ช้างเผือก ขอนำเรียนชี้แจงว่า ภาพที่เกิดขึ้น เนื่องจาก เมื่อจับกุมผู้ต้องหาได้เรียบร้อย มีการทำบันทึกและรายงานเหตุตามขั้นตอน( ภายในหน่วยงาน ) มีการนำตัวผู้ต้องหามาทำประวัติ เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวยาเสพติด มักนำน้ำอัดลมที่ขโมยมาผสมยาฯทาน และมีพฤติกรรมตระเวณลักขโมยทรัพยืสินของชาวบ้านบ่อยครั้งแม้ ทั้งภายในวัด ก็ไม่เว้นขโมยโทรศัพท์มือถือ เงิน และมินิมาท ร้านสะดวกซื้อ ทั่วเมืองเชียงใหม่ ผู้พักอาศัยบ้านใกล้เรือนเคียง จนสังคมเกิดความเดือดร้อนและเอื่อมระอาจากพฤติกรรม จึงต้องมาพึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนจับมาดำเนินคดีให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินในชุมชนต่อไป.