รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า..สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกประจำวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 มีรายละเอียดดังนี้...อาร์เจนติน่าแซงสเปนขึ้นเป็นอันดับที่ 10 ของโลกแล้ว ติดเพิ่มกว่าสี่หมื่นคนต่อวัน เมื่อวานเสียชีวิตกว่าห้าร้อยคน เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มถึง 518,489 คน รวมแล้วตอนนี้ 169,593,557 คน ตายเพิ่มอีก 11,189 คน ยอดตายรวม 3,523,135 คน 5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดยังเป็นเช่นเดิม คือ อินเดีย บราซิล อาร์เจนตินา โคลอมเบีย และอเมริกา อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 22,924 คน รวม 33,994,131 คน ตายเพิ่ม 614 คน ยอดเสียชีวิตรวม 606,790 คน อัตราตาย 1.8% อินเดีย ติดเพิ่มมากถึง 179,770 คน รวม 27,547,705 คน ตายเพิ่ม 3,558 คน ยอดเสียชีวิตรวม 318,821 คน อัตราตาย 1.2% บราซิล ติดเพิ่ม 66,722 คน รวม 16,342,162 คน ตายเพิ่มถึง 2,130 คน ยอดเสียชีวิตรวม 456,753 คน อัตราตาย 2.8% ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 13,933 คน ยอดรวม 5,635,629 คน ตายเพิ่ม 142 คน ยอดเสียชีวิตรวม 109,165 คน อัตราตาย 1.9% ตุรกี ติดเพิ่ม 8,426 คน รวม 5,220,549 คน ตายเพิ่ม 183 คน ยอดเสียชีวิตรวม 46,970 คน อัตราตาย 0.9% อันดับ 6-10 เป็น รัสเซีย สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน และอาร์เจนติน่า ติดกันหลักพันถึงหลักหมื่น แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย ชิลี บาห์เรน โบลิเวีย เนเธอร์แลนด์ รวมถึงฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย บังคลาเทศ ญี่ปุ่น เนปาล และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น ตอนนี้มาเลเซียติดเชื้อเพิ่มสูงถึง 7,857 คน ตายเพิ่ม 59 คน ยังเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่อยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน ยูเครน เบลารุส และจอร์เจียที่ยังหลักพัน แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่นิวซีแลนด์ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ ...หากวันนี้ยอดติดเชื้อใหม่ของไทยเรามากกว่า 2,300 คน ก็น่าจะแซงเมียนมาร์ขึ้นเป็นอันดับที่ 83 ของโลกได้ สถิติตอนนี้จาก Worldometer ไทยเรามีเคสรุนแรงและวิกฤติ เป็นอันดับที่ 22 ติดเชื้อใหม่รายวัน มีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 24 มีจำนวนการเสียชีวิตต่อวัน มากเป็นอันดับที่ 26 และมีจำนวนเคสที่กำลังได้รับการดูแลรักษาหรือ active case เป็นอันดับที่ 35 แต่...จำนวนการตรวจคัดกรองโรคต่อประชากร 1 ล้านคนนั้น เป็นอันดับที่ 140 ของโลก หัวใจในการต่อสู้กับโรคระบาดรุนแรงนั้น นโยบายและมาตรการที่เป็นหัวใจคือ หนึ่ง ระบบการตรวจคัดกรองโรคต้องมีศักยภาพ ตรวจได้มาก ครอบคลุม และต่อเนื่อง สอง วัคซีนเป็นอาวุธป้องกันสำคัญมาก ต้องวางแผน จัดซื้อจัดหา ชนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย มีความหลากหลาย และปริมาณมากเพียงพอสำหรับทุกคนในประเทศ สาม ไม่เปิดรับความเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำเข้าสู่ประเทศ ตราบใดที่ระบบตรวจยังมีความจำกัด และวัคซีนมีน้อยทั้งชนิดและปริมาณ โดยคนทั้งประเทศยังไม่ได้รับอย่างครบถ้วน และสี่ เวลาเกิดการระบาด จำเป็นต้องตัดวงจรการระบาดให้ได้ด้วยมาตรการที่เข้มข้นเพียงพอ ดังนั้นหากประเมินสถานการณ์ตอนนี้ตามทั้ง 4 ข้อข้างต้น...คงตระหนักได้ว่า ศึกที่กำลังเผชิญนี้ คงจะยังไม่เห็นแสงสว่างปลายทางอุโมงค์ ตราบใดที่ไม่เปลี่ยนทิศทาง และเปลี่ยนกลไกนโยบายสุขภาพท่องเที่ยวเดินทาง ขอให้เราทุกคนป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด เป็นกำลังใจให้