ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเขียนในเฟซบุ๊ก​ส่วนตัวว่า วันวิสาขบูชา วันที่สี่สิบหกของ รพ.สนามธรรมศาสตร์ เมื่อวานเราเตรียมการศูนย์รับวัคซีนธรรมศาสตร์ยิมเนเซียม4 ไว้พร้อม 100%แล้วสำหรับให้บริการประชาชนผู้สูงวัยวันละ 2,000 คน เหลืออย่างเดียวที่ยังยืนยันไม่ได้ก็คือเราจะมีวัคซีนมาให้ฉีดกับประชาชนไหม? ถึงวันนี้ ตัวเลขผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมเพื่อมาฉีดวัคซีน Astra zeneca กับเราจนถึงตอนบ่ายสามโมง มีจำนวนถึง 57,500 คนแล้วนะ คนเหล่านี้มีความหวังเล็ก ๆ อยู่ในใจอยู่ในวงสนทนาของครอบครัวแต่ละครอบครัวว่า ถึงวันนัดที่พูดกันไว้เป็นมั่นเหมาะโดยนายกรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีสาธารณสุข โดยปลัดกระทรวง โดย ศบค. และโดยรัฐบาลทั้งคณะมานานหลายเดือนแล้ว พวกเขาจะมีโอกาสได้รับวัคซีน ได้มีภูมิคุ้มกันและได้มีโอกาส อย่างน้อยก็ที่ตัวของพ่อแม่ ผู้สูงอายุในครอบครัว ที่จะสามารถมีชีวิตต่อไปโดยปกติสุขได้บ้างหลังได้รับวัคซีน ในระหว่างการคุกคามของโรคร้ายนี้ เรามีความหวังและเราเชื่อว่าในฐานะผู้ปกครองประเทศ ในฐานะรัฐบาลที่กุมชะตาชีวิตของทุก ๆ คนผ่านการออกกฎหมาย จัดงบประมาณ ออกคำสั่งต่อผู้คนและตัดสินใจในเรื่องนโยบาย รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เป็นสัญญาประชาคมที่ให้ไว้กับผู้คนทั้งประเทศตลอดระยะเวลาสามสี่เดือนติดต่อกันมานี้ ว่าจะจัดหาวัคซีน Astra Zeneca ให้กับทุก ๆ คนที่พากเพียรลงทะเบียนกับ #หมอพร้อม จนสำเร็จและรอคอยวันนัด นับแต่ 7 มิถุนายน ที่จะต้องมีวัคซีนมาให้กับทุกคนในจำนวนสี่ล้านกว่าคนที่ลงทะเบียนไว้และเฝ้ารอมานานหลายเดือน 57,500 คนที่ลงทะเบียนมารับวัคซีนที่ธรรมศาสตร์ กับอีกหลายล้านคนที่ลงทะเบียนรับวัคซีนไว้ทั่วประเทศตามที่รัฐบาลสัญญาไว้ รอการทำตามสัญญาจากรัฐบาลอยู่ ถ้าวัคซีนไม่มาตามนัดอย่างน้อยพวกเราควรจะได้รับคำขอโทษ และคำอธิบายชี้แจงจากใครทั้งหลายที่เคยสัญญาไว้ และบอกกับพวกเราว่า จะทำอย่างไรต่อไปในวันพรุ่งนี้ โดยไม่เบี่ยงเบน ไม่เอาสีข้างเข้าถู ไม่โทษโน่นโทษนี่อย่างที่ได้ยินในวันนี้ไหมนะ ช่างเถอะ เราไม่ใช่ผู้ปกครอง ไม่ใช่ผู้กำหนดนโยบาย แต่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตัวเล็กๆที่อยู่ในสนามรบ ที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ รักษาและป้องกันแนวรับของเราไว้ให้ดีที่สุด และต้องคอยปรับตัวตามทิศทางการตัดสินใจที่ไร้เอกภาพอย่างนี้ไปในแต่ละวัน แต่พวกเราก็จะก้มหน้าก้มตาทำงานของพวกเราที่หนักหนายิ่งขึ้นทุกวันนี้ต่อไป เพราะสิ่งที่พวกเราดูแลปกป้องอยู่ด้วยความยากลำบากนี้ สำคัญมากกว่ารัฐบาล หรือรมต.คนไหนๆ พวกเรากำลังช่วยดูแลพี่น้องคนไทยทั้งหลายอยู่ และจะไม่ละทิ้งหน้าที่นี้ไปเป็นอันขาด ข้อนึงที่พวกเราต้องปรับตัวตามนโยบายที่เปลี่ยนเป็นรายวันและไม่ค่อยมีเหตุผลที่ดีนี้ก็คือ เมื่อรัฐบาลและ ศบค.ลอยแพ หมอพร้อม และยุติระบบการจองฉีดวัคซีนผ่านแอพนี้โรงพยาบาลธรรมศาสตร์จึงจำเป็นต้องยุติการรับจองวัคซีนผ่านศูนยจองวัคซีนธรรมศาสตร์ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปด้วย เนื่องจากแอพ หมอพร้อม ประกาศยุติการรับจองคิวรับวัคซีนแล้ว พวกเราจึงไม่สามารถอัพโหลดข้อมูลการจองผ่านคอลเซ็นเตอรของเราขึ้นแอพ หมอพร้อม ได้ และยังไม่สามารถรับประกันการได้รับวัคซีนที่จะรับจองต่อไปในอนาคตได้ด้วยเช่นกัน แต่ กรณีของคนจำนวน 57,500 รายที่จองฉีดไว้ที่ศูนยรับวัคซีนธรรมศาสตร์ ได้บันทึกอยู่ในระบบของหมอพร้อมเรียบร้อยแล้ว เราคาดว่าส่วนนั้นจะไม่มีปัญหา เพราะมีคนหลายล้านชื่อที่ถูกบันทึกคิวไว้ในระบบแล้ว แปลสั้นๆก็คือและพรุ่งนี้คอลเซ็นเตอรจองวัคซีนของธรรมศาสตร์จะหยุดชั่วคราวและมีเสียงตอบรับอัตโนมัติแจ้งการยุติการรับจองชั่วคราวเมื่อมีผู้โทรเข้ามาจองวัคซีนนะ เราจะมาพบกันใหม่อีกเมื่อชาติต้องการเรา แต่ใครที่จองไว้เรียบร้อยแล้ว ชื่อและวันก็ยังอยู่นะ รอเขาบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ในสัปดาห์หน้า กลับมาที่เรื่องของเราดีกว่า ที่ รพ.สนาม วันนี้มีผู้ป่วยใหม่รับเข้ามา 19 รายแต่เราส่งผู้ป่วยกลับบ้านได้ถึง 43 ราย เพราะฉะนั้นยอดผู้ป่วยที่พักค้างอยู่กับเราลดลงเหลือเพียง 171 รายเท่านั้น นับว่าเป็นข่าวดีถ้าไม่เหลือบไปมองอัตราการเสียชีวิตของทั้งประเทศที่วันนี้เสียชีวิตสูงถึง 41 คนทำลายสถิติทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น เห็นแล้วเศร้าใจจริง ที่ รพ.ธรรมศาสตร์วันนี้เรารับผู้ป่วยเข้ามาต่ำกว่า 10 รายและส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลสนามหรือกลับบ้านได้มากกว่าเล็กน้อยจำนวนผู้ป่วยสีแดงในหอผู้ป่วยวิกฤติ RCUที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจลดลงเหลือเพียงสองราย และในหอผู้ป่วยกึ่งวิกฤติ Cohort ICU 16เตียง ก็สามารถ off High Flow ได้ทั้งหมด. นี่นับเป็นข่าวดีมากๆในกลุ่มผู้ป่วยอาการวิกฤตที่เราจะพยายามทำให้คนเหล่านี้กลับบ้านให้ได้มากที่สุดวันนี้จำนวนรวมของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลหลักอยู่ที่ประมาณ 60 กว่าราย ยังมีเตียงว่างสำหรับรับเข้ามาใหม่พรุ่งนี้ได้อีก 15 เตียง แต่ก็มีคำขอ refer ผู้ป่วยหนักจากบาง รพ. มารออยู่ตั้งแต่เย็นวันนี้ด้วยแล้วนะ ตั้งแต่สัปดาห์หน้า รพ.ธรรมศาสตรจำต้องทะยอยเปิดห้องผ่าตัดเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของจำนวนห้องแล้ว ด้วยความจำเป็นของผู้ป่วยที่ไม่ใช่โควิดที่มีมากขึ้น วันนี้เล่าเรื่องไม่ค่อยปะติดปะต่อ คงเพราะว่าเหนื่อย เพลีย และสับสนจากเรื่องที่อธิบายกันข้างๆคูๆ แบบเด็กเล่นขายของที่ได้ยินมาตลอดทั้งวันหรือเปล่า ขอจบแค่นี้และไปทำความเข้าใจกับภาษาหมอๆที่ได้ยินมาจากทีวีสักคืนนึงนะ ว่ามันแปลว่าอย่างไรแน่ #เหนื่อย ท้อ แต่เราจะไม่เลิก เราจะทำงานให้หนักมากขึ้น #ต้นทุนเรามีสูงเกินกว่าจะยอมแพ้ ยังรักเธอเหมือนเดิมนะ. ประเทศไทย