วันที่ 25 พ.ค.64 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงสถานการณ์การเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประชาชน ว่า ในวันนี้ตนมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งต่อสถานการณ์การจัดซื้อและกระจายวัคซีนของประเทศไทย ที่ไม่กระจายความเสี่ยง เลือกที่จะแทงม้าตัวเดียวทั้งยังล่าช้าอีกด้วย ทั้งที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้เคยออกมาเตือนไปแล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่กลับถูกรัฐบาลฟ้องร้องดำเนินคดี และวันนี้คำเตือนเหล่านั้นก็กลับมาเป็นจริงที่หลอกหลอนผู้มีอำนาจตัดสินใจอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากความหวังของประเทศไทยทั้งหมดฝากเอาไว้กับวัคซีนแอสตราเซเนกา รัฐบาลสัญญาไว้ว่าจะมีเข้ามาลอตใหญ่ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ถึงวันนี้ ยังไม่มีความชัดเจนจากรัฐบาลว่า วัคซีนแอสตราเซเนกา ลอตแรกที่สัญญากับประชาชนไว้ จะมาตามนัดได้หรือไม่ เพราะจากแผนเดิมที่รัฐบาลประกาศว่าจะมีวัคซีนจากสยามไบโอไซเอนซ์ เข้ามา 1.7 ล้านโด๊ส ในช่วงวันที่ 17-21 พ.ค.นั้น ปัจจุบันชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไม่สามารถทำได้อย่างที่พูดไว้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ “อาจจะมีปัญหาเรื่องค่าเบี่ยงเบนตามเอกสารนิดหน่อย” ตามคำของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพิธา กล่าวต่อไปว่า ประเด็นเเรก จากพฤติการณ์ทั้งหมดที่ปรากฏในหน้าข่าว ทั้งการให้ข่าวของนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ที่ระบุว่า การออกมาสื่อสารของโรงพยาบาลเองก็ดี หรือแม้แต่ข้อมูลที่ได้มาจากเจ้าหน้าที่กระทรวงในชั้นกรรมาธิการ สรุปแล้ว ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนแอสตราฯ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไป จนครบตามจำนวนและได้ภายในเงื่อนเวลาที่รัฐบาลประกาศไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่ จะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเงื่อนไขใดๆ หรือไม่อย่างไร ประเด็นที่สอง อุบัติเหตุหรือความขัดข้องใดๆ ในกระบวนการผลิตและส่งมอบวัคซีนนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ปัญหาที่เกิดจากการแทงม้าตัวเดียวต่างจากประเทศส่วนมากในโลกตั้งแต่แรกนั้น ถ้าเกิดความขัดข้องใดๆ เราจะมีแผนสำรองเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวต่อว่า ประเด็นที่สาม การระบาดในประเทศก็ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากในกทม.เกิดคลัสเตอร์ใหม่จำนวนมาก ไม่มีแนวโน้มลดลง ส่วนในต่างจังหวัดทั่วประเทศก็มีคลัสเตอร์เกิดใหม่เพิ่มขึ้น และที่ จ.นราธิวาส พบเชื้อสายพันธุ์แอฟริกาใต้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้แนวโน้มการระบาด ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในอนาคตอันใกล้ยังคงน่าเป็นห่วง ดังนั้นรัฐมีแนวทางในการรับมืออย่างไร ถ้าเกิดการระบาดด้วยไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ในประเทศไทย ในขณะที่วัคซีนหลักอย่างแอสตราฯ มีรายงานว่ามีประสิทธิภาพต่ำเมื่อเจอกับไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ประเด็นสุดท้าย สรุปแล้วแผนหลักของการกระจายวัคซีนของรัฐบาลมีเนื้อหาหน้าตาอย่างไร และควรจะต้องประกาศให้ประชาชนรับทราบให้ตรงกัน พร้อมกับเหตุผลคำอธิบาย เพื่อไม่ทำให้เกิดคำถามหรือคำครหาตามหลังมาว่า มีการเลือกปฏิบัติในบางจังหวัด บางพื้นที่ หรือให้เฉพาะแค่ประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง “การให้ข้อมูลที่แท้จริงกับประชาชนเป็นสิ่งปกติที่พึงกระทำ ยิ่งในห้วงวิกฤติแบบนี้ ยิ่งควรต้องสื่อสารให้ข้อมูลอย่างตรงประเด็น รอบด้านที่สุด เท่าที่จะทำได้ ดังนั้นผมจึงขอใช้โอกาสนี้สื่อสารเพื่อสอบถามไปยังรัฐบาลให้เร่งรีบชี้แจงให้สังคมได้รับความกระจ่างเพื่อยุติความโกลาหลทางข้อมูลข่าวสารและให้ประชาชนมั่นใจโดยมีพื้นฐานบนข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด”