จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างรวดเร็ว และนับวันยิ่งทวีความรุนแรงพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในพื้นที่เสี่ยง คือ คลัสเตอร์คลองเตย ที่มีประชาชน และชาวบ้านอาศัยอย่างแออัด โดยตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. - 11 พ.ค.64 พบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง
โดยทางกรุงเทพมหานคร ได้พยายามป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งเปิดจุดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อ ในชุมชนเขตคลองเตยอย่างเต็มที
อย่างไรก็ตาม การเร่งฉีดวัคซีนโควิด ในพื้นที่เขตคลองเตย ดูเหมือนจะสร้างความวุ่นวายขึ้น โดยพาะเรื่องการลงทะเบียนบัตรคิว หลังนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.พลังประชารัฐ เจ้าของพื้นที่คลองเตย-วัฒนา ได้ออกมาเปิดโปง หลังได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องว่า มีการซื้อขายบัตรคิวฉีดวัคซีน ในราคาสูงถึง 3,000 บาท ที่ให้กับชาวต่างชาติทั้งชาวจีน และเกาหลี
โดยก่อนหน้านี้นางกรณิศ ได้ออกมาแฉเรื่องราวการขายบัตรคิวในพื้นที่คลองเตยมาแล้ว และมีการออกมาชี้แจงจากนายสมพิศ ผอบเพชร ประธานชุมชนแฟลต 19-23 ในฐานะประธานชุมชนคลองเตย ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ทางประธานชุมชนในแต่ละชุมชน มีการประสานกับทางสำนักงานเขตคลองเตย เรื่องการแจกบัตรคิวของแต่ละชุมชน และขึ้นอยู่กับจำนวนหลังคาเรือนในแต่ละชุมชน ว่ามีจำนวนมากน้อยแค่ไหน พร้อมทั้งลำดับความสำคัญในการแจกบัตรคิว ว่าควรแจกใครก่อน เช่นครอบครัวกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงที่ขี่วินจักรยานยนต์รับจ้าง หรือขับรถรับจ้างที่ต้องพบเจอสัมผัสกับผู้คนอยู่ตลอดเวลาทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อและนำกลับมาสู่ชุมชน ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก ในการแจกบัตรแต่อย่างใด
ล่าสุด ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร ออกมายอมรับว่า ในพื้นที่เขตคลองเตย มีการลักลอบแอบขายบัตรคิวฉีดวัคซีนให้ชาวต่างชาติจริง พร้อมสั่งให้สำนักงานเขตคลองเตย เร่งแก้ไขและตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมขอให้ประชาชนมาลงทะเบียน เพื่อรับวัคซีน และยืนยันว่า ตามนโยบายของรัฐ ต้องการให้คนไทยได้รับวัคซีนก่อน จึงยังไม่ได้เปิดลงทะเบียนให้ชาวต่างชาติได้รับวัคซีนเหมือนเช่นคนไทย
การออกมาเปิดโปงการขายบัตรคิวในครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่ และผู้เกี่ยวข้องคงต้องเร่งแก้ปัญหา และตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า “ขบวนการ” ดังกล่าว มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะการกระทำเช่นนี้ถือเป็นการตัดโอกาส “ชาวคลองเตย” ในการฉีดวัคซีนอย่างแท้จริง