เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ในกรุงเทพฯ มีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังถึง 33 แห่ง มีที่รายงานเข้ามาใหม่ คือในเขตคันนายาว ตลาดสายเนตร ซึ่งมีชาวไทยและชาวกัมพูชาอาศัยหนาแน่น ติดเชื้อไปแล้ว 6 คน นอกจากนี้ ยังมีในเขตบางแค ที่เป็นสถานดูแลผู้สูงอายุเอกชน 3 แห่ง ซึ่งเป็นเจ้าของรายเดียวกัน ซึ่งจากการลงพื้นที่ สถานดูแลผู้สูงอสายุแห่งแรก 16 คน ส่วนอีกสองแห่ง พบแห่งละ 3 คน ซึ่งผู้ติดเชื้อมีทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแล เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่คัดแยกระดับผู้ป่วย โดยรายที่อาการหนักส่งโรงพยาบาล รวมทั้งนำเครื่องโมบายล์เอ็กซเรย์ไปเอ็กซเรย์ปอดให้ผู้สูงอายุ ว่ามีการติดเชื้อในปอดหรือไม่ คนที่ผลเป็นลบจะแยกกักตัวและตรวจซ้ำ ส่วนการสอบสวนโรค พบว่า ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ เกิดจากที่ผู้ดูแลต้องเดินทางไปมาระหว่างสถานดูแลเหล่านี้ มีพนักงานทำความสะอาด มีญาติมาเยี่ยม อาจจะมีความหละหลวมในการสวมหน้ากากอนามัย การจัดการระบายอากาศค่อนข้างไม่ดี มีการทำกิจกรรมรวมกลุ่มในผู้สูงอายุ ผู้ดูแลบางคนอาจไม่ได้เปลี่ยนถุงมือในการดูแลผู้สูงอายุแต่ละคน ซึ่งการสอบสวนโรคนี้ไม่ใช่เพื่อตำหนิ แต่เพื่อเป็นกรณีศึกษา เรียนรู้และเฝ้าระวัง ซึ่งกรมควบคุมโรคเสนอมาตรการเพื่อเฝ้าระวังและควบคุมโรค เช่น การแยกผู้สูงอายุแต่ละประเภทออกจากกัน เช่น ผู้สูงอายุติดเตียง ผู้สูงอายุที่กำลังพักฟื้นจากการรักษาพยาบาล หรือผู้สูงอายุที่ยังแข็งแรงทำกิจกรรมได้ ควรต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน และผู้ดูแลต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า ดูแลเตียงใดหรือกลุ่มใดบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดการข้ามกลุ่มกัน นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์จากที่พักคนงานก่อสร้าง ที่อยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี แต่ไซต์งานอยู่ในเขตดุสิต กรุงเทพฯ รองปลัดกรุงเทพมหานคร จึงเสนอ ศบค.ชุดเล็ก เกี่ยวกับมาตรการระดมตรวจเชิงรุกในแคมป์คนงาน เนื่องจากใน 50 เขต ของ กทม. มีแคมป์คนงานถึง409 แคมป์ แรงงานที่มีอยู่ประมาณ 62,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว สำนักงานประกันสังคมจะเข้ามาช่วยรับผิดชอบในการระดมตรวจเชิงรุกประมาณ 50,000 คน ส่วนอีก 12,000 คน จะอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โดยประชุม ศบค.ชุดเล็ก ร่วมกับกรุงเทพฯ และจังหวัดปริมณฑล มีการหารือถึงการปรับแผนเฝ้าระวังอย่างเป็นระบบ โดยจะตรวจคัดกรองให้เร็วขึ้น อาจจะด้วยวิธีเก็บตัวอย่างน้ำลายหรือเก็บตัวอย่างของเสียน้ำทิ้ง รวมทั้งจะหารือเกี่ยวกับระบบดูแลความปลอดภัยในกรณีมีผู้ติดเชื้อมากๆ โดยจะขอความร่วมมือบริษัทต้นสังกัด ในการจัดสถานที่ให้แรงงานที่ติดเชื้อได้รักษาตัวอยู่ภายในแคมป์เพื่อลดการเคลื่อนย้าย โดยประเด็นทั้งหมดจะหารือกันในวันนี้ และจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป