"ศบค."แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ยังพุ่ง! 3,382 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 17 ศพ ยอดป่วยสะสม 129,500 ราย ยืนยันพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้ จำนวน 3 คน ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส รักษาหายแล้ว ระบุคลัสเตอร์นี้เจอผู้ติดเชื้อ 83 ราย ยันมีมาตรการควบคุมและจำกัดการเดินทางเข้าออกพื้นที่แล้ว "อธิบดีกรมราชทัณฑ์"แจงข่าวปลอม"พบโควิดสายพันธุ์แอฟริกา"ในคลัสเตอร์เรือนจำนราธิวาส ขณะที่"รองโฆษกรัฐบาล"ชี้วัคซีนทางเลือก "โมเดอร์นา" ขึ้นทะเบียนในไทยแล้ว คาดเบื้องต้นซื้อ 5 ล้านโดส
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยอดรวม 3,382 ราย จำแนกเป็นติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,325 ราย ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 1,592 ราย ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า State Quarantine จำนวน 5 ราย โดยเจ้าหน้าที่จะใช้โดรนคุมเข้มบุคคลที่ลักลอบเข้ามาทางแนวชายแดนตามเส้นทางธรรมชาติ รวมกับติดเชื้อจากเรือนจำ 460 คน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 17 ราย
ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 129,500 ราย หายป่วยแล้ว 84,535 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 44,189 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 18,615 ราย และโรงพยาบาลสนาม 25,574 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 1,210 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 412 ราย และยอดเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 776 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน จ.เพชรบุรี จ.ฉะเชิงเทรา และจ.ชลบุรี จากการระบาดในสถานประกอบการ โรงงาน พบสายพันธุ์แอฟริกา ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มีมาตรการควบคุมและจำกัดการเดินทางเข้าออกพื้นที่ ทั้งนี้เคสแรกพบในชาย อายุ 32 ปี โดยตรวจพบในวันที่ 4 พ.ค.จากนั้นมีการติดตามและพบวงที่เกิดขึ้น 3-5 วง กระจายรวมทั้ง 83 คน และจากการสุ่มตรวจ 10 คน พบสายพันธุ์ B.1.351.2 จำนวน 3 คน ปัจจัยเสี่ยงคือครอบครัวจากมาเลเซียมาเยี่ยมที่บ้าน
วันเดียวกัน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยจากกรณีที่มีสื่อมวลชนรายหนึ่ง เผยแพร่ข้อมูลผ่านออนไลน์ว่า “มีการพบโควิด สายพันธุ์แอฟริกา เกิดขึ้นเป็นคลัสเตอร์ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส” นั้น กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากในปัจจุบัน เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียว ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังที่เคยติดเชื้อได้รับการรักษาจนหายหมดทุกรายแล้ว และไม่ปรากฏยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม จึงขอเรียนพี่น้องประชาชน อย่าได้หลงเชื่อข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง โดยสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากกรมราชทัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้เกิดความเข้าใจผิด
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรือนจำจังหวัดนราธิวาส ยังคงถือปฏิบัติตามมาตรการป้องก้น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกรมราชทัณฑ์และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซ้ำอีก พร้อมทั้งได้ฉีดวัคซีนให้แก่เจ้าหน้าที่ ที่ไม่ได้รับเชื้อโควิด-19 ส่วนหนึ่งแล้ว และได้ขอรับการสนับสนุนวัคซีนเพิ่มเติมจากสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนราธิวาส ให้ครอบคลุมสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังทุกคน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรร เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสอีกด้วย
ขณะที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกรัฐบาล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เผยการนำเข้าวัคซีนทางเลือกโดยองค์การเภสัชกรรมได้ร่วมมือกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชน จัดหาวัคซีนทางเลือก วัคซีนยี่ห้อที่จะจัดหามาในช่วงแรกนี้ คือ โมเดอร์นา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนไปเมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างที่สมาคมโรงพยาบาลเอกชนรวบรวมจำนวนความต้องการ เบื้องต้น สมาคมโรงพยาบาลเอกชนคาดการณ์ ปริมาณสั่งซื้อจำนวน 5 ล้านโดส ซึ่งอยู่ในระหว่างทบทวนจำนวนร่วมกันอีกครั้ง ก่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
การจัดซื้อวัคซีนทางเลือกนั้น มีเงื่อนไขการขายของผู้ผลิตวัคซีนในต่างประเทศเองที่ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐของประเทศผู้ซื้อวัคซีน เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อและบริหารจัดการตามแนวทางของการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไขในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ Conditional Approval for Emergency Use ซึ่งในส่วนวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นานี้ ผู้ผลิตต้องการให้ภาครัฐเป็นผู้ดำเนินการ องค์การเภสัชกรรมจึงเข้ามาร่วมดำเนินการ ส่วนยี่ห้ออื่นนั้นขึ้นกับอยู่เงื่อนไขการขายของผู้ผลิตว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ผลิตจะให้หน่วยงานรัฐเป็นผู้ดำเนินการเช่นกัน ไม่ได้มีการปิดกั้นช่องทางการนำเข้าวัคซีนทางเลือกผ่านโรงพยาบาลเอกชนหรือภาคเอกชนอื่นๆ แต่อย่างใด