วันที่ 23 พ.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) กล่าวว่า การระบาดของโควิดในจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ได้แก่ กทม. ในตลาดบางกะปิ และศรีวรจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย , สมุทรปราการ เป็นชุมชนเคหะใหม่ บางเสาธง และโรงงาน 4 แห่งใน อ.เมือง , ปทุมธานีคือตลาดสี่มุมเมือง , เพชรบุรี คือโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ชลบุรี โรงงานผลิตสายไฟ , มหาสารคาม ระบาดต่อเนื่องในชุมชน , นราธิวาส ที่ตากใบพบผู้ป่วยใหม่ 12 ราย เกี่ยวข้องกับการพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ตอนนี้ยังพบแค่ 3 คน ตัวเลข 12 คือตัวเลขการติดเชื้อ , สงขลา โรงงานอาหารทะเล และฉะเชิงเทรา โรงงานชำแหละไก่
“การติดเชื้อรายแรกของ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นชายอายุ 32 ปี พบเชื้อวันที่ 4 พ.ค. จากนั้นติดตามมาตลอด มีวงเกิดขึ้น 5 วง กระจายรวมทั้งหมด 83 ราย เมื่อกระจายเป็นกลุ่มก้อนใหญ่จึงกำหนดว่าจะต้องสุ่มตรวจสายพันธุ์เป็นระยะ จึงสุ่มมา 10 คน พบว่าเป็นสายพันธุ์แอฟริกาใต้ 3 ราย” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า ส่วน กทม.เพิ่มขึ้น 983 ราย ยังพบต่างด้าวอยู่ ตัวเลขยังทรงๆ แต่คลัสเตอร์เพิ่มขึ้นจาก 31 เป็น 33 คลัสเตอร์ ที่เพิ่มขึ้นมาคือ บางกะปิ เชื่อมโยงกับแคมป์คนงานก่อสร้างซอยรามคำแหง 8 และกรณีสำเพ็ง เป็นคลัสเตอร์เดิมที่จะปิดเคสแล้วกลับมาใหม่อีก มีโอกาสใหม่ได้ถ้าหากการ์ดตก
ดังนั้น ทุกคนต้องไม่การ์ดตก จะผ่านพ้นสถานการณ์ไปด้วยกัน ถามว่า กทม.จะอยู่แบบนี้ไปเท่าไร เพราะเพชรบุรีจะจัดการให้ได้ใน 1-2 สัปดาห์ ส่วน กทม.มีหลายเขตและมีการกระจายของเชื้อแตกต่างกัน และสังคมมีความซับซ้อน และมีแรงงานต่างด้าวในแคมป์ที่พบติดเชื้อในหลายบริษัท จึงต้องขอให้ผู้ประกอบการช่วยดูแลคนของตัวเองเมื่อต้องบับเบิลแอนด์ซีล มีการส่งข้าวส่งน้ำ ถ้าร่วมด้วยช่วยกันจะดีมาก