แม้ว่าช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 นี้แม้จะต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 แต่ก็ยังสามารถทำกำไรสุทธิได้ 74 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีรายได้รวม 1,262 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากแผนการปรับโครงสร้างทางการเงินที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกระจายการลงทุนเพื่อสร้างการรับรู้รายได้ในธุรกิจที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC ได้สะท้อนแผนการดำเนินงานได้อย่างน่าสนใจ กำไรมาจากปรับกลยุทธ์ด้านการบริหาร โดย นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC กล่าวว่า กลุ่มดุสิตธานีพยายามที่จะรักษาความสามารถในการทำกำไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเพื่อรอวันฟื้นตัวเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายหลังจากที่มีการกระจายวัคซีนให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง แต่ก็ต้องยอมรับว่า การที่บริษัทฯ สามารถมีผลประกอบการที่มีกำไรสุทธิได้ในภาวะเช่นนี้เป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับฝ่ายบริหารและพนักงานทุกคน ซึ่งผลการดำเนินงานที่เป็นบวกในไตรมาสนี้ เป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ด้านการบริหารจัดการโครงสร้างทางการเงินที่บริษัทฯ ได้วางแผนไว้ ทั้งจากการลงทุนที่ผ่านมาและจากโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค รวมถึงการรับรู้ผลกำไรจากการกระจายการลงทุนไปในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ตลอดจนการบริหารและการควบคุมต้นทุนทางการเงิน และค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างเคร่งครัดที่ดำเนินการมาตลอดปีที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพย์สินที่มีอยู่ การบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการรับรู้รายได้จากการบริหารจัดการเงินลงทุน ทำให้มีฐานการเงินเพียงพอที่จะรองรับวิกฤติที่เข้ามากระทบในช่วงนี้ ส่วนต่างของรายได้มาจากธุรกิจเสริม อย่างไรก็ตาม นางศุภจี กล่าวว่า แม้ว่าภาพรวมของสถานการณ์โรงแรมในประเทศไทย จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของคลัสเตอร์สมุทรสาครในช่วงเดือนมกราคม แต่สถานการณ์ดังกล่าวอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ไม่กระจายไปทั่วประเทศ ทำให้ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ โรงแรมในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงทำรายได้ทั้งจากค่าห้องพัก และรายได้ที่ไม่ใช่ห้องพัก เช่น การตั้งร้านป๊อบอัพสำหรับจำหน่ายอาหาร การส่งอาหารแบบดิลิเวอรี่ รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ของ Dusit on Demand ซึ่งเป็นความพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อรับมือกับโควิด-19 และทุกโรงแรมสามารถทำได้เป็นอย่างดี ขณะที่ธุรกิจโรงแรมของกลุ่มดุสิตธานีในต่างประเทศสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ จากการแพร่ระบาดที่มีแนวโน้มลดลงอย่างชัดเจน โดยหลายประเทศได้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ไปแล้ว ทำให้ธุรกิจโรงแรมท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งโรงแรมในต่างประเทศของกลุ่มดุสิตธานีสามารถทำผลงานได้ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งในประเทศจีน ประเทศแถบตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา และมัลดีฟส์ สะท้อนให้เห็นว่าการกระจายการลงทุนของดุสิตธานีที่มีทั้งโรงแรมในประเทศและต่างประเทศ ที่สามารถตอบโจทย์การกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน อีก 2 ไตรมาสขึ้นอยู่กับวัคซีนโควิด นอกจากนี้ นางศุภจี ยังกล่าวต่อว่า ทางบริษัทยังได้ทำการปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งเมื่อสามารถปรับกระบวนการทำงานได้แล้วก็จะทำให้องค์กรมีความกระชับขึ้น คล่องตัวขึ้น และใช้เป็นคลัสเตอร์ โมเดล ที่พนักงานสามารถทำงานได้หลายหน้าที่ และสามารถแบ่งปันทรัพยากรในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยเรื่องการประหยัดต้นทุน รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งนี้แม้ว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรสุทธิได้ในภาวะที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่สำหรับธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวก็ต้องยอมรับว่า ผลประกอบการในไตรมาสแรกนี้ ยังไม่ได้สะท้อนการระบาดของโควิดระลอก 3 ซึ่งกระจายเป็นวงกว้างทั่วประเทศ และคาดว่าจะส่งผลกดดันผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ของปี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญของการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวอยู่ที่อัตราการฉีดวัคซีน ซึ่งผู้ประกอบการทุกคนยังคงต้องระมัดระวังในการบริหารสภาพคล่องและเตรียมค