วันที่ 19 พ.ค. 64 นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 จากเดิมเปิดในวันที่ 1 มิถุนายน เป็นวันที่ 14 มิถุนายนนั้น ตนขอชี้แจงให้ทุกคนรับทราบให้ชัดเจนอีกครั้ง ว่า การเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปอีกเป็นการเลื่อนพร้อมกันในโรงเรียนทั่วประเทศ ซึ่งหากมีโรงเรียนหรือสถานศึกษาใดในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือ พื้นที่สีแดง และพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้ม ประสงค์จะดำเนินการเปิดภาคเรียนที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน เป็นต้นไปก็ให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้น ดำเนินการประเมินความพร้อมตามระบบ Thai Stop COVID Plus ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่มี 44 ข้อโดยต้องผ่านทุกข้อ และต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่ออนุญาตให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาแห่งนั้นสามารถจัดการเรียนการสอนได้ก่อนวันที่ 14 มิ.ย. ส่วนระยะเวลา 14 วันที่เลื่อนออกไปจะเพียงพอหรือไม่นั้น ศธ.คงไม่สามารถตอบได้ แต่ขณะนี้สถานการณ์การของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ยังมีการระบาดหนักอยู่ ซึ่งก็พยายามออกแบบการเรียนการสอนให้หลากหลายและเหมาะสมต่อสถานการณ์มากที่สุด
นายสุภัทร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การเลื่อนเปิดภาคเรียนออกไปอีกก็ถือเป็นการเร่งระดมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนได้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ดังนั้นตนจึงอยากเชิญชวนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้เข้ามารับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นภายในโรงเรียน ส่วนที่หลายฝ่ายต้องให้นักเรียนได้รับการฉีดวัคซีนด้วยนั้น ต้องขอชี้แจงว่าวัคซีนโควิดมีการทำลองเฉพาะกลุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งยังไม่มีการทดลองในกลุ่มผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ดังนั้นคงต้องรอให้มีการจัดทำวัคซีนสำหรับเด็กขึ้นมาก่อน
ด้านนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า สำหรับการสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4 ระหว่างวันที่ 22-23 พฤษภาคม นั้น ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้อนุมัติให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดสอบได้จำนวน 702 แห่ง แต่เมื่อ สพฐ.สำรวจแล้วพบว่า มีโรงเรียนจำนวนหนึ่งที่มาสอบคัดเลือกแบ่งห้องเรียน โดยในโรงเรียนจำนวนนี้สพฐ.จึงให้ยกเลิกการสอบแบ่งห้องเรียนไปก่อน ดังนั้นจะเหลือโรงเรียนที่ต้องมาสอบคัดเลือกเข้าม.1 และ 4 แบ่งเป็น สอบเข้าม.1 และ 4 พร้อมกันในวันที่ 22 พฤษภาคม มีจำนวน 175 โรง สอบเข้าเฉพาะม.1 วันที่ 22 พฤษภาคม มีจำนวน 54 โรง และสอบเข้าเฉพาะ ม.4 วันที่ 23 พฤษภาคม มีจำนวน 49 โรง โดยโรงเรียนที่สอบเข้าม.1และ 4 ในวันเวลาดังกล่าวรวมทั้งสิ้น 278 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะลดความแออัดลงได้ โดยขอให้โรงเรียนปฎิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด