วันที่ 19 พ.ค.2564 ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวปาล์ม 3 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล นายภิเชฐ อุทัยรังษี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 หนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่มฯ กำลังสีข้าวเปลือก เพื่อขายในราคาถูกและส่วนหนึ่งไว้แจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซีย และจากต่างจังหวัดในช่วงสถานการโควิด-19 ยังไม่มีงานทำ ขาดรายได้ นับเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านอีกทางหนึ่ง
นายภิเชฐ อุทัยรังษี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 กล่าวว่า เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มในการจัดตั้งกลุ่มโรงสีข้าวฯ แล้วคือ อยากให้ชาวบ้านได้กินข้าวคุณภาพ ปลอดสารพิษ ซื้อได้ในราคาถูก และแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ยากจน โดยเฉพาะใน ช่วงสถานการณ์โควิด-19 มีผู้ได้รับความเดือดร้อนมาก ทางกลุ่มฯจึงสีข้าวเปลือกเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ได้รับความเดือดร้อนช่วยเหลือได้มีข้าวกินในช่วงขาดรายได้ รวมทั้งงานศพทั้งชาวศาสนาพุทธ – อิสลามหากมีใครเสียชีวิตคนในหมู่บ้าน ทางเราจะนำข้าวสารไปมอบให้อีกด้วย
ทั้งนี้ทางกลุ่มฯไม่ได้มอบให้ตามบ้านเรือน แต่จะประกาศถึงคนในชุมชนหากใครที่ลำบาก ไม่มีข้าวสารจะกินจริงๆให้มาเอาได้ โดยทางกลุ่มจะสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร สังหยดให้อย่างต่ำคนละ 5 กิโลกรัม
โดยข้าวเปลือกดังกล่าวทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวปาล์ม 3 รับซื้อมาจากจังหวัดพัทลุง ใช้เงินจากกลุ่มต่างๆซึ่งมี 5 กลุ่มหลักๆในชุมชน ประกอบด้วย กลุ่ม 1.สวนปาล์มหมู่บ้าน 2.กองทุนเงินล้าน 3.กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต 4.กลุ่มโคขุน 5.กลุ่มเลี้ยงแพะ นำกำไรจากการดำเนินงาน มาช่วยซื้อข้าวเปลือกสีเป็นข้าวสาร
นายภิเชฐ อุทัยรังษี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวอีกว่า มีนโยบายว่า หมู่บ้านใกล้เคียงถือหุ้นได้ไม่เกิน 5 หุ้น ถ้าคนในหมู่บ้านก็ไม่เกิน 10 หุ้น ระเบียบตั้งไว้ว่าถ้าสมาชิก มีใครตาย จะให้ข้าวสาร 1 กระสอบ อย่างเช่นพี่น้องที่ยากจน ไม่มีข้าวสารหุง ก็สามารถมาขอได้ ให้โดยที่สมาชิกทุกคนยินยอม ส่วนความต้องการของพี่น้องคืออยากจะได้เครื่องสี ให้มีขนาดใหญ่กว่านี้อีกสักนิด เครื่องนี้มันเล็กอยู่แต่สามารถใช้เลี้ยงคนในหมู่บ้านเพียงพอ แต่เพื่อรองรับเวลาเดือนบวชเพราะพี่น้องมุสลิมต้องเสียข้าวสาร ต้องการขยายกำลังผลิตให้ใหญ่กว่านี้
สำหรับ ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวปาล์ม 3 มีสมาชิก 315 คน เป็นคนในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง ร่วมลงหุ้นในการก่อตั้งเป็นโรงสี โดยโรงสีจะขายข้าวสาร สังหยดในราคาถูกกว่าท้องตลาดขายให้กับสมาชิก แล้วจะแบ่งกำไรสุทธิ์ //ปันผลรายปีให้กับสมาชิก นอกจากนี้ทางกลุ่มฯยังมีข้าวชนิดอื่นมาขายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับสมาชิกอีกด้วย
..............................................
นายภิเชฐ อุทัยรังษี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 กล่าวว่า เป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มในการจัดตั้งกลุ่มโรงสีข้าวฯ แล้วคือ อยากให้ชาวบ้านได้กินข้าวคุณภาพ ปลอดสารพิษ ซื้อได้ในราคาถูก และแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ยากจน โดยเฉพาะใน ช่วงสถานการณ์โควิด-19 มีผู้ได้รับความเดือดร้อนมาก ทางกลุ่มฯจึงสีข้าวเปลือกเพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ได้รับความเดือดร้อนช่วยเหลือได้มีข้าวกินในช่วงขาดรายได้ รวมทั้งงานศพทั้งชาวศาสนาพุทธ – อิสลามหากมีใครเสียชีวิตคนในหมู่บ้าน ทางเราจะนำข้าวสารไปมอบให้อีกด้วย
ทั้งนี้ทางกลุ่มฯไม่ได้มอบให้ตามบ้านเรือน แต่จะประกาศถึงคนในชุมชนหากใครที่ลำบาก ไม่มีข้าวสารจะกินจริงๆให้มาเอาได้ โดยทางกลุ่มจะสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร สังหยดให้อย่างต่ำคนละ 5 กิโลกรัม
โดยข้าวเปลือกดังกล่าวทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวปาล์ม 3 รับซื้อมาจากจังหวัดพัทลุง ใช้เงินจากกลุ่มต่างๆซึ่งมี 5 กลุ่มหลักๆในชุมชน ประกอบด้วย กลุ่ม 1.สวนปาล์มหมู่บ้าน 2.กองทุนเงินล้าน 3.กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต 4.กลุ่มโคขุน 5.กลุ่มเลี้ยงแพะ นำกำไรจากการดำเนินงาน มาช่วยซื้อข้าวเปลือกสีเป็นข้าวสาร
นายภิเชฐ อุทัยรังษี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวอีกว่า มีนโยบายว่า หมู่บ้านใกล้เคียงถือหุ้นได้ไม่เกิน 5 หุ้น ถ้าคนในหมู่บ้านก็ไม่เกิน 10 หุ้น ระเบียบตั้งไว้ว่าถ้าสมาชิก มีใครตาย จะให้ข้าวสาร 1 กระสอบ อย่างเช่นพี่น้องที่ยากจน ไม่มีข้าวสารหุง ก็สามารถมาขอได้ ให้โดยที่สมาชิกทุกคนยินยอม ส่วนความต้องการของพี่น้องคืออยากจะได้เครื่องสี ให้มีขนาดใหญ่กว่านี้อีกสักนิด เครื่องนี้มันเล็กอยู่แต่สามารถใช้เลี้ยงคนในหมู่บ้านเพียงพอ แต่เพื่อรองรับเวลาเดือนบวชเพราะพี่น้องมุสลิมต้องเสียข้าวสาร ต้องการขยายกำลังผลิตให้ใหญ่กว่านี้
สำหรับ ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนโรงสีข้าวปาล์ม 3 มีสมาชิก 315 คน เป็นคนในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง ร่วมลงหุ้นในการก่อตั้งเป็นโรงสี โดยโรงสีจะขายข้าวสาร สังหยดในราคาถูกกว่าท้องตลาดขายให้กับสมาชิก แล้วจะแบ่งกำไรสุทธิ์ //ปันผลรายปีให้กับสมาชิก นอกจากนี้ทางกลุ่มฯยังมีข้าวชนิดอื่นมาขายเพื่อเป็นทางเลือกให้กับสมาชิกอีกด้วย
..............................................