ตำรวจหิ้ว "ประสิทธิ์ เจียวก๊ก" ผู้ต้องหาร่วมขบวนการหลอกลงทุนทำธุรกิจกระเป๋าแบรนด์เนม เสียหายพันล้านบาท "ฝากขัง -ค้านประกัน "กองปราบ" รวบเพิ่ม "กิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์" ลูกสมุน
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่18 พ.ค.64 ร.ต.อ.เจษฎา เหมโก พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอท.) ได้นำตัว นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน มาฝากขังเป็นครั้งแรกผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากให้ประกันตัวผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานได้
สืบเนื่องจากพฤติการณ์ผู้ต้องหากับพวกร่วมกันประกาศโฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมลงทุนในธุร กิจซื้อขายและเช่ากระเป๋าแบรนด์เนมผ่านบริษัท โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง เพียงแต่รอรับเงินปันผลภายในระยะเวลาที่กำหนดเท่านั้นทุกวันที่ 30 ของเดือน แต่ปรากฏว่ามิได้มีการจ่ายเงินตอบแทนตามที่สัญญาตกลงกันไว้แก่ผู้เสียหาย จึงได้มีการทวงถามทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์ แต่เริ่มติดต่อได้ยากขึ้น จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ปไม่พบว่ามีการลงทะเบียนทางศุลกากรจริงและผู้เสียหายไม่ได้รับเงินตอบแทนแต่อย่างใด ทำให้เกิดความเสียหายกว่า พันล้านบาท ต่อมาศาลอาญาได้ออกหมายจับนายประสิทธิ์ผู้ต้องหา กระทั่งเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา นายประสิทธิ์ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ ปอท.ตามที่ถูกออกหมายจับ จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินเป็น การฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343 วรรคแรก,พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ1 กองบังคับการปราบปราม (กองปราบ) สามารถติดตามจับกุมตัว นายกิตติศักดิ์ เย็นนานนทน์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือเอ็มกรุ๊ป ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในคดีร่วมกับนายประสิทธิ์ หลอกลงทุนหลายรูปแบบ จนเกิดความเสียหายนับพันล้านบาทเอาไว้ได้ โดยนายกิตติศักดิ์ถือว่าเป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายที่ยังอยู่ในระหว่างการหลบหนี อย่างไรก็ตาม ภายหลังการจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ1 กองบังคับการปราบปราม ได้ควบคุมตัวนายกิตติศักดิ์มาทำการสอบสวนที่กองปราบทันที