TWPC ผลงานดี รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/2564 แตะ 128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่รายได้รวม เพิ่มขึ้น 38% จากงวดเดียวกันปีก่อน อานิสงส์ธุรกิจส่งออกแป้งมันสำปะหลังสดใส ราคาขายปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งลูกค้าบางอุตสาหกรรม หันมาใช้แป้งมันสำปะหลังทดแทนแป้งข้าวโพด หนุนยอดขายพุ่ง "โฮ เรน ฮวา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุแนวโน้มความต้องการแป้งมันอยู่ในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน ที่ดีมานด์โตมากกว่าเท่าตัว พร้อมเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไบโอพลาสติก” คาดเริ่มผลิตได้ปลายปีนี้ พร้อมคงเป้ายอดขายปี 64 เติบโตได้ในระดับ double digit นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2564 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 82 ล้านบาท ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2563 บริษัทฯ มีรายได้พิเศษจากการเข้าซื้อกิจการและกำไรจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน รวมจำนวน 43 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 2,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 1,550 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากในไตรมาส 1/2564 เนื่องจากบริษัทฯ มีปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น 46% โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มีปริมาณการส่งออกแป้งมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น 109% ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมของอุตสาหกรรมการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง รวมทั้งราคาขายปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง "ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปีนี้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยภาพรวมธุรกิจ ถือว่ามีทิศทางการเติบโตดีทั้งอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลัง และธุรกิจอาหาร สะท้อนจากตัวเลขการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของไทยไปต่างประเทศโตได้ดี ซึ่งบริษัทสามารถเติบโตสอดคล้องกับอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันยังได้รับอานิสงส์จากแป้งข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้บางอุตสาหกรรมที่เป็นลูกค้าของบริษัทได้หันมาใช้แป้งมันสำปะหลังทดแทนแป้งข้าวโพดอีกด้วย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 3 ในประเทศไทย ไม่ได้กระทบกับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นสินค้าประเภทอาหารและส่วนประกอบในอาหารขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต นอกจากนี้สินค้าแป้งมันสำปะหลังของบริษัทส่วนใหญ่ ส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน และไต้หวัน ส่วนด้านธุรกิจอาหารส่งออกของบริษัทยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะช่องทางการขายที่สำคัญ เช่น Wholesale และหน่วยรถเงินสด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คนละครึ่ง-เราชนะ-ม.33 นอกจากนี้สัดส่วนการส่งออกในธุรกิจอาหารปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ใกล้เคียง 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 16% เนื่องจากสถานการณ์โควิดในต่างประเทศเริ่มฟื้นตัว ซึ่งบริษัทยังมองว่ารายได้รวมของบริษัทปี 2564 ยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตสองหลัก (Double digit) ได้จากปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเดินหน้าธุรกิจใหม่ โดยผลิตสินค้าประเภท "ไบโอพลาสติก" ซึ่งเป็นผลผลิตจากพืชผลทางการเกษตร และสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% เพื่อนำไปใช้ในรูปแบบประเภทสินค้าภาชนะ และของใช้ในการเกษตรทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตในช่วงปลายปีนี้ และทยอยรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้แต่จะรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป