นายกฯบงกชปลื้ม ยอดผู้ติดคุณวุฒิ APFinSA Awards ในไทยพุ่งทะยาน แต่พิษโควิดระลอก 3 ทำให้ต้องเลื่อนวันจัดงาน เป็น 15 มิถุนายน แย้มรมต.คลังตอบรับเข้าร่วมงานมอบรางวัล ขณะที่งานใหญ่ในไต้หวันเลื่อนจัดงานออกไปอย่างไม่มีกำหนด
นางบงกช บวรฤกษ์ นายก(รักษาการ)สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน (THAIFA) ประกาศความสำเร็จในการรณณรงค์ให้สมาชิกสมาคมสมัครคุณวุฒิ APFinSA Awards โดยในประเทศไทย ปีนี้มีผู้ติดคุณวุฒิรวม 590 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มีคนติดคุณวุฒิ 357 คน หรือเพิ่มขึ้นถึง 65%
“ถือว่า สมาคมทำได้เกินเป้าหมาย จากที่ตั้งใจจะเพิ่มผู้ติดคุณวุฒิให้ได้ 50% แต่เราทำได้เพิ่มถึง 65% โดยในจำนวนผู้ติดคุณวุฒิ 590 คนนี้ แบ่งเป็นผู้ติดคุณวุฒิในระดับต่างๆ ดังนี้
คุณวุฒิของตัวแทนมี 3 ระดับ คือ
1. ระดับ APFinSA Award 486 คน
2. ระดับ Star Award 34 คน
3. ระดับ Pinnacle Award 22 คน
ส่วนคุณวุฒิของผู้บริหารหน่วย มี 3 ระดับเช่นกัน
1. ระดับ Leadership Award Gold 25 คน
2. ระดับ Leadership Award Diamond 18 คน
3. ระดับ Leadership Award Platinum 5 คน
รวมทั้งหมดมีผู้ติดคุณวุฒิในไทย 590 คน”
ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณผู้บริหารบริษัทต่างๆที่ให้ความเชื่อถือและสนับสนุนคุณวุฒิของสมาคม เพราะAPFinSA เป็นของพวกเราทุกคน เราเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ดังนั้น ผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกกับสมาชิกในระยะยาว”
“ส่วนเรื่องการจัดงานมอบรางวัล APFinSA Award ในประเทศไทย ที่เดิมตั้งใจจะจัดงานในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ก็จำเป็นต้องเลื่อนไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของสมาชิก ความจริง ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ท่านอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ได้ตอบรับด้วยวาจาจะมาร่วมงานมอบรางวัลในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้แล้ว แต่เมื่อมีการเลื่อนการจัดงานไปวันที่ 15 มิถุนายน ท่านก็ตอบตกลงที่จะมาร่วมงานอีก โดยท่านได้บอกว่า ท่านให้ความสำคัญกับธุรกิจประกันชีวิต ถ้าท่านไม่ติดอะไร ท่านพร้อมที่จะมาร่วมงานเสมอ”
นางบงกชยังได้กล่าวต่อว่า ปีนี้เราจะเน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้รับรางวัลเป็นพิเศษ โดยจะเน้นการเว้นระยะห่าง ด้วยการให้ผู้รับรางวัลเข้างานรอบละ 100 คนเท่านั้น เช่นในพิธีเปิดจะมีผู้ติดคุณวุฒิระดับผู้บริหารและตัวแทนในระดับ Star Award ขึ้นไปอยู่ในงาน เมื่อรับมอบรางวัลแล้ว ให้เดินออก ขณะที่ผู้รับรางวัล APFinSA Award ทั่วไปทยอยหมุนเวียนเข้ารับรางวัล จะไม่มีการแออัดในห้องพร้อมกันทีเดียว 5-600 คน เหมือนแผนเดิมที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ทุกคนยังได้ภาพถ่ายบนเวทีที่สวยงาม และภาพแบนเนอร์เป็น e-file ที่จะไปลงโซเชี่ยลมีเดียเช่นเดิม ขณะที่วิชาการจะจัดออนไลน์ ไม่มีการฟังพร้อมกันในห้องเหมือนปีที่ผ่านมา
คุณบรรยง วิทยวีรศักดิ์ ประธานสมาคมที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิกหรือ APFinSA ได้กล่าวถึงภาพรวมของผู้ติดคุณวุฒิในภูมิภาคนี้ทั้ง 9 ประเทศ พบว่าในภาพรวมปีนี้มีผู้ติดคุณวุฒิเพิ่มขึ้น 26% จากปีที่แล้วที่มีผู้ติดคุณวุฒิทั้งสิ้น 1553 คน มาปีนี้ติดเพิ่มเป็น 1977 คน เพิ่มขึ้นถึง 424 คน นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
“ความจริง ถ้าไม่มีการระบาดของโรคโควิด 19 เชื่อว่าคนจะสมัครและไปร่วมรับรางวัลที่ประเทศไต้หวันมากกว่านี้ แต่พอมีการระบาดในระลอก 2 และ 3 ในแต่ละประเทศ ทำให้หลายคนหยุดชะงักในการร่วมกิจกรรมต่างๆ แม้แต่ในไต้หวันเอง ก็กลับมามีการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง ทั้งที่สามารถควบคุมได้มาเกือบปี จนต้องเลื่อนการจัดงานจากวันที่ 19 พฤษภาคม ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายชัดเจน”
“สำหรับในเรื่องทิศทางของธุรกิจ ก็ยังยืนยันว่า ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ ตอนนี้ประชาชนกำลังตื่นตัวในการรับมือกับโรคโควิด 19 พวกเขากำลังหาวิธีสร้างหลักประกันหรือหาแผนการประกันสุขภาพที่จะโอนความเสี่ยงให้บริษัทประกันชีวิตรับไปดูแล พวกเราจึงต้องหาวิธีที่จะไปอธิบายวิธีปกป้องความเสี่ยงเหล่านี้ ส่วนใครจะขายผ่านระบบออนไลน์หรือแบบเจอตัว ก็ขอให้คำนึงผลประโยชน์และสุขอนามัยของลูกค้าเป็นหลักด้วย ผมยังเชื่อว่า ปีนี้ยอดขายของช่องทางตัวแทนประกันชีวิตจะเป็นบวกครับ” นายบรรยงกล่าวอย่างมั่นใจ
“ถือว่า สมาคมทำได้เกินเป้าหมาย จากที่ตั้งใจจะเพิ่มผู้ติดคุณวุฒิให้ได้ 50% แต่เราทำได้เพิ่มถึง 65% โดยในจำนวนผู้ติดคุณวุฒิ 590 คนนี้ แบ่งเป็นผู้ติดคุณวุฒิในระดับต่างๆ ดังนี้
คุณวุฒิของตัวแทนมี 3 ระดับ คือ
1. ระดับ APFinSA Award 486 คน
2. ระดับ Star Award 34 คน
3. ระดับ Pinnacle Award 22 คน
ส่วนคุณวุฒิของผู้บริหารหน่วย มี 3 ระดับเช่นกัน
1. ระดับ Leadership Award Gold 25 คน
2. ระดับ Leadership Award Diamond 18 คน
3. ระดับ Leadership Award Platinum 5 คน
รวมทั้งหมดมีผู้ติดคุณวุฒิในไทย 590 คน”
ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณผู้บริหารบริษัทต่างๆที่ให้ความเชื่อถือและสนับสนุนคุณวุฒิของสมาคม เพราะAPFinSA เป็นของพวกเราทุกคน เราเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร ดังนั้น ผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกกับสมาชิกในระยะยาว”
“ส่วนเรื่องการจัดงานมอบรางวัล APFinSA Award ในประเทศไทย ที่เดิมตั้งใจจะจัดงานในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ก็จำเป็นต้องเลื่อนไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของสมาชิก ความจริง ท่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ท่านอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ได้ตอบรับด้วยวาจาจะมาร่วมงานมอบรางวัลในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้แล้ว แต่เมื่อมีการเลื่อนการจัดงานไปวันที่ 15 มิถุนายน ท่านก็ตอบตกลงที่จะมาร่วมงานอีก โดยท่านได้บอกว่า ท่านให้ความสำคัญกับธุรกิจประกันชีวิต ถ้าท่านไม่ติดอะไร ท่านพร้อมที่จะมาร่วมงานเสมอ”
นางบงกชยังได้กล่าวต่อว่า ปีนี้เราจะเน้นเรื่องความปลอดภัยของผู้รับรางวัลเป็นพิเศษ โดยจะเน้นการเว้นระยะห่าง ด้วยการให้ผู้รับรางวัลเข้างานรอบละ 100 คนเท่านั้น เช่นในพิธีเปิดจะมีผู้ติดคุณวุฒิระดับผู้บริหารและตัวแทนในระดับ Star Award ขึ้นไปอยู่ในงาน เมื่อรับมอบรางวัลแล้ว ให้เดินออก ขณะที่ผู้รับรางวัล APFinSA Award ทั่วไปทยอยหมุนเวียนเข้ารับรางวัล จะไม่มีการแออัดในห้องพร้อมกันทีเดียว 5-600 คน เหมือนแผนเดิมที่วางไว้ อย่างไรก็ตาม ทุกคนยังได้ภาพถ่ายบนเวทีที่สวยงาม และภาพแบนเนอร์เป็น e-file ที่จะไปลงโซเชี่ยลมีเดียเช่นเดิม ขณะที่วิชาการจะจัดออนไลน์ ไม่มีการฟังพร้อมกันในห้องเหมือนปีที่ผ่านมา
คุณบรรยง วิทยวีรศักดิ์ ประธานสมาคมที่ปรึกษาการเงินแห่งเอเชียแปซิฟิกหรือ APFinSA ได้กล่าวถึงภาพรวมของผู้ติดคุณวุฒิในภูมิภาคนี้ทั้ง 9 ประเทศ พบว่าในภาพรวมปีนี้มีผู้ติดคุณวุฒิเพิ่มขึ้น 26% จากปีที่แล้วที่มีผู้ติดคุณวุฒิทั้งสิ้น 1553 คน มาปีนี้ติดเพิ่มเป็น 1977 คน เพิ่มขึ้นถึง 424 คน นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
“ความจริง ถ้าไม่มีการระบาดของโรคโควิด 19 เชื่อว่าคนจะสมัครและไปร่วมรับรางวัลที่ประเทศไต้หวันมากกว่านี้ แต่พอมีการระบาดในระลอก 2 และ 3 ในแต่ละประเทศ ทำให้หลายคนหยุดชะงักในการร่วมกิจกรรมต่างๆ แม้แต่ในไต้หวันเอง ก็กลับมามีการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง ทั้งที่สามารถควบคุมได้มาเกือบปี จนต้องเลื่อนการจัดงานจากวันที่ 19 พฤษภาคม ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายชัดเจน”
“สำหรับในเรื่องทิศทางของธุรกิจ ก็ยังยืนยันว่า ในวิกฤติย่อมมีโอกาสเสมอ ตอนนี้ประชาชนกำลังตื่นตัวในการรับมือกับโรคโควิด 19 พวกเขากำลังหาวิธีสร้างหลักประกันหรือหาแผนการประกันสุขภาพที่จะโอนความเสี่ยงให้บริษัทประกันชีวิตรับไปดูแล พวกเราจึงต้องหาวิธีที่จะไปอธิบายวิธีปกป้องความเสี่ยงเหล่านี้ ส่วนใครจะขายผ่านระบบออนไลน์หรือแบบเจอตัว ก็ขอให้คำนึงผลประโยชน์และสุขอนามัยของลูกค้าเป็นหลักด้วย ผมยังเชื่อว่า ปีนี้ยอดขายของช่องทางตัวแทนประกันชีวิตจะเป็นบวกครับ” นายบรรยงกล่าวอย่างมั่นใจ