เมื่อวันที่ 17 พ.ค.นพ.กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 วิกฤติหนักขึ้น ประชาชนติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 1 แสนคน เสียชีวิตมากกว่า 600 คน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารสถานการณ์ล้มเหลวมาตั้งแต่ต้น ไม่เคยฟังคำแนะนำจากทุกฝ่าย ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และพรรคร่วมฝ่ายค้านเคยให้คำแนะนำมาตลอด รัฐบาลคิดแต่ในมุมการเมืองเรื่องอำนาจและใช้อำนาจกับทุกเรื่อง แม้แต่การแก้ปัญหาโรคระบาด รัฐออกคำสั่งรวบอำนาจเอาไว้ทั้งหมดกับพลเอกประยุทธ์ ทำให้การแก้ปัญหาติดขัด จนถึงแก้ไม่ได้ นอกจากนี้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 รัฐบาลเตรียมให้ประชาชนเดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ตามสถานที่ต่างๆที่ รัฐจัดขึ้นในหลายพื้นที่ อยากถามว่า รัฐบาลจะนำวัคซีนมาจากไหนเพื่อบริการประชาชน ในเมื่อปัจจุบันการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้น้อยมาก หากเทียบกับประชากรทั้งประเทศ และหลายครั้งที่ประชาชนมีอาการไม่พึงประสงค์ หลังจากการฉีดวัคซีน บางคนเป็นน้อย แต่บางรายอาการหนักจนถึงขั้นเสียชีวิต รัฐบาลมักจะอ้างอาการเกิดขึ้นจากโรคประจำตัว ของผู้รับวัคซีน ดังนั้นหากรัฐจัดให้บริการฉีดวัคซีนนอกสถานที่หากเกิดปัญหาจะแก้อย่างไร
นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาไวรัสโควิด-19ระบาดในรอบล่าสุด ทำลายโอกาสของประเทศไทยทุกมิติ ต้นตอปัญหาเกิดจากพลเอกประยุทธ์ที่ปล่อยปละละเลย ให้มีการลักลอบการเปิดบ่อนการพนันทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด แรงงานเถื่อนทะลักเข้าไทยเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงสถานบันเทิงต่างๆ ที่ยังลักลอบเปิดให้บริการ และการจัดกิจกรรมทางสังคมของรัฐมนตรีส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสและเสียชีวิตจากกิจกรรมดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พลเอกประยุทธ์เลือกที่จะไม่ทำอะไร เพราะกลัวกระทบเสถียรภาพของรัฐบาล ที่สำคัญพลเอกประยุทธ์ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวที่เกิดขึ้น แต่เลือกโยนความผิดให้ประชาชน กล่าวหาประชาชนประมาทไม่ฟังคำเตือนรัฐบาล แต่ไม่จริงจัง จัดการกับธุรกิจสีเทาและการกระทำที่ผิดกฎหมายที่สร้างปัญหาให้ประเทศ