พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม/โฆษก สตม.กล่าวเปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ5 จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร5 รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวตIางชาติที่มีพฤติกรรมไมIเหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทยกระทำความผิดกฎหมายและก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย5สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวกับคนไทยหรือต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม, พล.ต.ต.สิทธิชัย โลIกันภัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ศิลปคมณ5 เอี่ยมวงศ5 รอง ผบช.สตม.
พล.ต.ต.อาชยน กล่าวอีกว่า ตามที่ปรากฏขJอมูลข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์กรณีห้องกักตัวเพื่อรอการส่งกลับ สตม. มีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 นั้น สตม. ขอเรียนชี้แจงว่า กรณี ห้องกักตัวเพื่อรอการส่งกลับ ตม.จว.สงขลา เป็นข้อมูลในปี พ.ศ.2563 ปัจจุบัน สตม. ไดJดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการแพรIระบาดในหJองกัก สตม. โดยมีมาตรการ ดังนี้
1. มาตรการต้อผู้ต้องกัก
- มาตรการสูงสุดในการตรวจคัดกรองผู้ต้องกักที่รับตัวมาจาก สน./สภ. ราชทัณฑ์ หนIวยบังคับใช้กฎหมาย จะต้องมีผลการตรวจโรคโควิด-19 มาพร้อมหนังสือนำส่งตัวคนต่างด้าวมาพร้อมด้วย อีกทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองแรกรับ หากตรวจพบอุณหภูมิผู้ต้องกักสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการไขJสูง ไอ จาม เจ็บคอ ไมIสามารถรับรูปกลิ่นหรือรส อย่างหนึ่งอย่างใด ให้รีบส่งตัวพบแพทย์ทันที และรายงานให้ผูJบังคับบัญชาทราบโดยเร็ว
- มาตรการการแยกกักตัวสำหรับผู้ต้องกักแรกรับรายใหม่อย่างน้อย 15 วัน และตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจอาการ และเฝ้าระวังอาการ ดูแลสุขภาพอนามัย โดยแพทย์ ตรวจคนเข้าเมืองประจำห้องกัก พร้อมทั้งประสานโรงพยาบาลใกลJเคียงในการส่งต้อและรักษากรณีป่วยหนัก
- มาตรการงดเยี่ยมผู้ต้องกักทุกกรณีจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง แต่อนุญาตให่ผูJต้องกักใช้โทรศัพท์สาธารณะหรือทางระบบซูมเพื่อติดต่อญาติ หรือสถานทูต หรือองค์การต่าง ๆ ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศในการดูแลผู้ต้องกัก ได้แก่ UNHCR IOM UNICEF เป็นต้น
- กรณีผู้ต้องกักมีเหตุจำเป็นต้องออกไปภายนอกห้องกัก เช่น ไปพบแพทย์ ไปศาล เป็นต้น ให่สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือก่อนเข้า-ออกห้องกักทุกครั้ง
- จัดให้มีคำแนะนำการระวังป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจัดทำเป็นโปสเตอร์เป็นภาษาต่างประเทศ 10ภาษา ติดให้ผู้ต้องกักทราบ และเปิดสื่อภาษาต่าง ๆ ให้ผู้ต้องกักฟังเป็นประจำ เพื่อให้ทราบถึงการป้องกันโรค
- ด้านการป้องกันและควบคุมโรค สถานกักตัวคนต่างด้าวจะประสานบุคลากรทางการแพทย์ที่รับผิดชอบ เช่น สาธารณสุขในพื้นที่ หรือ สปคม. กรมควบคุมโรค เพื่อใหJการดำเนินการในการปlองกันและควบคุมโรคเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข "สตม.เข้ม มาตรการคัดกรองผู้ต้องกัก"
2. มาตรการต้อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
3. มาตรการผู้เกี่ยวข้อง เช่น ผู้จัดหาอาหารผู้ต้องกัก ผู้ทำความสะอาดห้องกัก ฯลฯ หรือมาตรการต่อบุคคลภายนอก ตามแนวทางของสาธารณสุขโดยเคร่งครัด (DMHTT)
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเรียนว่า การดูแลผู้ต้องกักเป็นไปตามมาตรฐานสากลและหลักมนุษยธรรม นอกจากมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ข้างต้น สตม. ยังมีมาตรการเพิ่มเติม เช่น กรณีที่มีผู้ติดเชื้อห้องกักบางเขน สตม. จำนวน 400 ราย สตม. ได้ดำเนินการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราว และได้ทำการรักษาหายเป็นปกติแล้วทุกราย และดำเนินการตามขั้นตอนการส่งกลับแล้วปัจจุบันไม่มีผู้ต้องกักที่ติดเชื้อในห้องกัก สตม. แต่อย่างใดสตม.ขอเรียนให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดใน
ด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย