กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำ 6 เขื่อนอีสานกลาง เพื่อเจือจางค่าคลอไรด์ของน้ำชีหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจุดสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ด หลังพบค่าความเค็มของน้ำประปาเมืองร้อยเอ็ดเกินมาตรฐาน เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากได้รับรายงานว่า ประชาชนเมืองร้อยเอ็ดได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำประปามีรสเค็มเป็นผลมาจากคลอไรด์ในน้ำสูง ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ด ได้ประสานขอให้ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงแม่น้ำชีเพื่อเจือจางค่าคลอไรด์ในแม่น้ำชีบริเวณหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นจุดสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ด จึงสั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 6 ประสานไปยังเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 1.1 ล้าน ลบ.ม. เป็นวันละ 3 ล้าน ลบ.ม. เพื่อช่วยเติมน้ำลงลำน้ำพองและไหลไปลงแม่น้ำชีที่หน้าเขื่อนมหาสารคาม ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นวันละ 0.10 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนในแม่น้ำชีตั้งแต่เขื่อนชนบท จังหวัดขอนแก่น เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 0.24 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนมหาสารคาม เพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 3.10 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนวังยาง จังหวัดกาฬสินธุ์ เพิ่มการระบายน้ำเป็นวันละ 3.86 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนร้อยเอ็ด ระบายน้ำวันละ 4.21 ล้าน ลบ.ม. และรักษาระดับน้ำเก็บกักเขื่อนร้อยเอ็ดไว้ที่ +129.500 เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับระบบสูบจ่ายน้ำดิบ จากการตรวจวัดค่าความเค็มบริเวณหน้าเขื่อนร้อยเอ็ด จุดสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคาขาร้อยเอ็ด ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.64 ที่ผ่านมา พบว่าค่าความเค็มที่สูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาร้อยเอ็ด อยู่ในเกณฑ์ปกติแล้ว แต่ยังคงกำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำและค่าความเค็มในพื้นที่ร่วมกับการประปาฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมค่าความเค็มในแม่น้ำชีให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนชาวร้อยเอ็ด