ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.วีรยุทธ สิทธิรัตนกุล ผกก.สภ.ท้ายเหมือง พร้อม พ.ต.ท.สุรศักดิ์ รอดไกร รองผกก.สืบสวน ร.ต.อ.กฤษณะ เพ็งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง ชุดสืบสวน สภ.ท้ายเหมือง จับกุมพร้อมนำตัว นายวินัย สิทธิศักดิ์ ฉายา บอยควนแรด อายุ 27 ปี เลขที่ 62/6 หมู่ 10 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา พร้อม รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีดำ-ส้ม ทะเบียน 1 กง 816 พังงา หมวกกันน๊อคในการก่อเหตุ 1 ใบ พร้อมเสื้อผ้าในขณะก่อเหตุ วิ่งราวทรัพย์กระชากสร้อยคอทองคำ จากนางวรรณาพร เจริญทองพิสุทธิ์ อายุ 62 เจ้าของร้านกิตติศักดิ์การค้า เลขที่ 17/1 หมู่ที่ 8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ผู้เสียหาย ให้การว่า ขณะที่ตนเองกำลังขายของอยู่ที่ร้านขายของชำที่เกิดเหตุคนเดียว ได้มีชายไทย ไม่ทราบชื่อ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณหน้าร้านขายของตนเอง ชายคนดังกล่าวสวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบ สวมใส่หน้ากากอนามัย สีขาว ชายดังกล่าวเดินลงมาจากรถ เข้ามาในร้านแล้วได้ใช้มือมากระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนักทอง 1 บาท ที่นางวรรณพรฯ สวมใส่อยู่ที่คอ หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวก็สตาร์ทเครื่องรถแล้วขับหลบหนีออกไปจากหน้าร้าน มุ่งหน้าไปทางตลาดท้ายเหมือง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี กระทั่งจับกุมตัวนาย วินัย อายุ 27 ปี ได้ที่ ขนำไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ในทางการสืบสวนทราบว่านายวินัย ได้เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ มาแล้วครั้งหนึ่งที่ร้านทองศรีทอง สาขาท้ายเหมือง เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2563 ถูกชุดสืบสวน สภ.ท้ายเหมือง จับกุมตัวไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อได้รับโทษและพ้นโทษเมื่อช่วงเดือน มกราคม 2564 ที่ผ่านมา กระทั่งได้มาก่อเหตุในครั้งนี้อีก หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายวินัย สิทธิศักดิ์ ฉายา บอยควนแรด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือ พาทรัพย์นั้นไป เบื้องต้น โดยนายวินัย รับว่า ตนเองเป็นคนก่อเหตุในคดีนี้จริง โดยวันเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ และสวมใส่ชุดของกลางที่ตรวจยึดได้ ออกจากขนำที่พักไปยังร้านขายของชำที่เกิดเหตุ แล้วเข้าไปกระทำการกระชากสร้อยคอทองคำของเจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิง แล้วหลบหนีไป จากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำส่วนหนึ่งที่ขาดติดมาไปขายยังร้านทอง อ.เมือง จ.พังงา ได้เงินจำนวน 8,200 บาท แล้วนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมด นำส่ง พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นางวรรณาพร เจริญทองพิสุทธิ์ อายุ 62 เจ้าของร้านกิตติศักดิ์การค้า เลขที่ 17/1 หมู่ที่ 8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองตกใจมาก และได้คว้าไม้กวาดที่อยู่ภายในร้านทุบตีเพื่อยับยั้งคนร้ายหลายครั้งแต่คนร้ายได้วิ่งหลบหนีและสตาร์ทรถจักรยานยนต์ขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองท้ายเหมือง ซึ่งตนเองไม่คิดว่าจะได้ทองคืน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถติดตามและนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ซึ่งตนเองต้องขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง เป็นอย่างยิ่ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี กระทั่งจับกุมตัวนาย วินัย อายุ 27 ปี ได้ที่ ขนำไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ในทางการสืบสวนทราบว่านายวินัย ได้เคยก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำ มาแล้วครั้งหนึ่งที่ร้านทองศรีทอง สาขาท้ายเหมือง เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2563 ถูกชุดสืบสวน สภ.ท้ายเหมือง จับกุมตัวไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อได้รับโทษและพ้นโทษเมื่อช่วงเดือน มกราคม 2564 ที่ผ่านมา กระทั่งได้มาก่อเหตุในครั้งนี้อีก หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายวินัย สิทธิศักดิ์ ฉายา บอยควนแรด ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือ พาทรัพย์นั้นไป เบื้องต้น โดยนายวินัย รับว่า ตนเองเป็นคนก่อเหตุในคดีนี้จริง โดยวันเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ และสวมใส่ชุดของกลางที่ตรวจยึดได้ ออกจากขนำที่พักไปยังร้านขายของชำที่เกิดเหตุ แล้วเข้าไปกระทำการกระชากสร้อยคอทองคำของเจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิง แล้วหลบหนีไป จากนั้นได้นำสร้อยคอทองคำส่วนหนึ่งที่ขาดติดมาไปขายยังร้านทอง อ.เมือง จ.พังงา ได้เงินจำนวน 8,200 บาท แล้วนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมด นำส่ง พนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นางวรรณาพร เจริญทองพิสุทธิ์ อายุ 62 เจ้าของร้านกิตติศักดิ์การค้า เลขที่ 17/1 หมู่ที่ 8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนเองตกใจมาก และได้คว้าไม้กวาดที่อยู่ภายในร้านทุบตีเพื่อยับยั้งคนร้ายหลายครั้งแต่คนร้ายได้วิ่งหลบหนีและสตาร์ทรถจักรยานยนต์ขับมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองท้ายเหมือง ซึ่งตนเองไม่คิดว่าจะได้ทองคืน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถติดตามและนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ซึ่งตนเองต้องขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท้ายเหมือง เป็นอย่างยิ่ง