วันที่ 13 พ.ค.64 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และทนายความนายกรัฐมนตรี ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุทธิพงศ์ ทักพิทักษ์กุล หรือ “ฮาร์ท” นักร้องชื่อดัง ในความผิดตาม ป.อาญา ม. 112 และ พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ โดยกล่าวหาว่านายสุทธิพงศ์ โพสต์ความเห็นเกี่ยวกับวัคซีนโควิดพาดพิงสถาบันฯ นั้น ว่า เรื่องนี้ยิ่งตอกย้ำปัญหาที่พรรคก้าวไกลเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจมาแล้วว่า พล.อ. ประยุทธ์มักแอบอ้างสถาบันฯ มาเป็นเกราะปิดบังความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารของตนเอง ในขณะนี้สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ เร่งจัดหาวัคซีนที่หลากหลายพอ มากพอ และเร็วพอ ไม่ใช่ส่งคนไปดำเนินคดีกับผู้ที่ออกมาวิจารณ์ยุทธศาสตร์และการจัดการวัคซีนที่ผิดพลาดของรัฐบาล ซึ่งคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้เคยออกมาเตือนไว้ตั้งแต่ก่อนเกิดการระบาดระยะที่ 3 แต่กลับถูกแจ้งข้อหา ม.112 แทน
”อย่างกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส ก็เช่นกัน แทนที่ รมว. จะเร่งนำเทคโนโลยีดิจิตัลมาใช้เพื่อบริหารจัดการเรื่องการฉีดวัคซีนให้มีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ กลับสั่งให้คนไปแจ้งความต่อนักข่าวไทยพีบีเอสจากการเผยแพร่ข่าวคลาดเคลื่อนเรื่องประชาชนที่แพ้วัคซีน“
นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า ในภาวะที่ประชาชนขาดความเชื่อมั่นอย่างรุนแรงต่อวัคซีนโควิดที่รัฐจัดให้ รัฐบาลต้องสำนึกในความผิดพลาดของตนเองและรับผิดชอบต่อประชาชนให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่ไปไล่ฟ้องปิดปากประชาชนและสื่อมวลชน ถ้ารัฐบาลทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ได้ก็ควรลาออกไป แล้วเปิดทางให้คนที่มีความสามารถมากกว่าเข้ามาแก้วิกฤตของประเทศที่เกิดจากระบอบประยุทธ์