"พล.อ.ประยุทธ์"สั่งเข้มชายแดนสกัดต่างด้าวทะลัก แฉมี"เจ้าหน้าที่รัฐ"เอี่ยว"ผู้มีอิทธิพล" วอนประชาชนเป็นหูเป็นตา หากพบเจ้าหน้าที่ทำผิกกฎหมายแจ้งสายด่วนได้ทันที เมื่อวันที่ 13 พ.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงกรณีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามบริเวณชายแดนที่ยังมีมาก ว่า เรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. ได้ให้นโยบายชัดเจน ต่อ เลขาธิการ สมช. ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค. ให้ฝ่ายความมั่นคง คือ ศปก.มท. ของกระทรวงมหาดไทยให้มีการตรวจเข้ม และรายงานทุกวันในเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเราจะมีฝ่ายความมั่นคงกระจายอยู่ในพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ในวันนี้เราไม่ได้นำมาเป็นภาระในการนำมากักตัว เพราะได้ดำเนินการผลักดันออกไป "แต่พบว่ามีการกระทำผิดซ้ำ และบางข่าวก็บอกว่าเชื่อมโยงกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนที่ไม่ดี จึงมีการเน้นย้ำว่าขอให้ประชาชนทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตา หากมีหลักฐานใดที่สามารถเก็บได้ขอความกรุณาได้แจ้งมาที่ ศบค. และหากพบว่าเป็นเบาะแสที่จำเป็นจะต้องจัดการต่อเรื่องนี้โดยตรงก็จะได้ดำเนินคดีในขั้นเด็ดขาด โดยเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถแจ้งตรงเข้ามาได้คือ สายด่วน 1111 , 191 , 1599 , 1138 หากพบเบาะแสโทรศัพท์สามารถมาแจ้งได้หรือหากมีหลักฐานที่ชัดเจนก็สามารถจับได้ทันที" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว วันเดียวกัน กองกำลังบูรพา ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจตาพระยา และ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 อรัญประเทศ ทำการลาดตระเวน สกัดแรงงานต่างด้าวข้ามชายแดน ตามช่องทางธรรมชาติ ป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดนผิดกฎหมายและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย ต่อมา พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กกล.บูรพา จ.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.อ.เสกสรร พรหมศักดิ์ รอง ผบ.กกล.บูรพา ออกตรวจตราตามแนวชายแดน ให้เข้มงวดเรื่องการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ร่วมกับ พ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผกก.ตชด.ที่ 12 จัดกำลังพลทำการซุ่มเฝ้าตรวจ และ ลาดตระเวนในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามมาตรการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จากนั้นเวลาประมาณ 07.00 น.วันที่ 13 พฤษภาคม 2564 เจ้าหน้าที่ ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณบ้านโคกสูง ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ริมชายแดนพบกลุ่มแรงงานกำลังเดินลัดเลาะตามแนวชายป่าข้ามชายแดนมาได้ จึงได้เข้าทำการสกัด ได้ 6 คน เป็นแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด เป็นชาย 2 หญิง 4 คน พร้อมผู้นำพาชาวกัมพูชา ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ ได้ตรวจมาถึงบริเวณบ้านทัพเซียมและบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พบกลุ่มคนเดินบนถนนลูกรัง อยู่ห่างจากถนนสายหลัก 200 เมตร บ้านทัพเซียม ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 23 คน เป็นชาย 14 คนหญิง 9 คน โดยทั้งหมดสวมหน้ากากอนามัยทุกคน จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารการเข้ามาในประเทศ ไม่พบเอกสารการเข้าเมืองมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม และควบคุมตัว มาสอบสวนเพิ่มเติม จากการสอบสวน ทราบว่า ชาวกัมพูชากลุ่มนี้ เริ่มออกเดินเท้ามาจากกัมพูชาตั้งแต่เมื่อวาน โดยมีคนนำพาเป็นชาวกัมพูชา พาเดินเข้ามา จากบ้านแต้ ต.สวายเจก อ.สวายเจก จ.บันเตียนเมียนเจย ประเทศกัมพูชา เดินลัดเลาะหลบหลีกการตรวจการของทหารกัมพูชา และข้ามฝั่งมาบนถนนศรีเพ็ญ บริเวณช่องทางธรรมชาติ และเดินลัดเลาะมาตามถนนทางลูกรังจนมาถึงจุดที่จับได้ รวมทั้งหมด 29 คน ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาทั้งหมด ให้การว่า จะไปหางานทำ ในกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี โดยจะมีรถมารับไปส่งที่ยังปลายทาง และเมื่อถึงที่หมายปลายทางแล้วจะจ่าย คนละ 4,500 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้ทำการตรวจคัดกรอง โควิด-19 โดยการตรวจวัดอุณหภูมิ ผลการตรวจอุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ ทั้ง 29 คน โดยต่างด้าวชาวกัมพูชาได้บันทึกจับกุมและผลักดันออกนอกประเทศทางช่องทาง โอบายเจือน ต่อไป