"จุรินทร์ " ระบุจะเห็นพ้องกับ รธน. "ฉบับ พปชร." หรือไม่ ต้องดูเป็นรายมาตรา พร้อมยึดหลักไม่ให้ถอยหลังเข้าคลอง หากไปจะเห็นพ้อง ต้องเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ด้าน "ธีรัจชัย" เผย กมธ.ป.ป.ช.จ่อเชิญ "วิชา-นักวิชาการ" ฟัน "ธรรมนัส" ภาค 2 ส่วน "เพนกวิน" ไม่หยุด!ประกาศเดินหน้าปฏิรูปสถาบัน อ้างไม่ขัดเงื่อนไขศาล ขณะที่ "รุ้ง" เปิดไทม์ไลน์ "ติดโควิด" จี้กรมคุกเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อจริง เมื่อวันที่ 12 พ.ค.64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พา ณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่วันนี้ถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคว่า เป็นเรื่องที่ยังดำเนินการอยู่โดยต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ต้องเจอกับสถานการณ์โควิด ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าประเทศมีปัญหาหลายด้าน เพราะฉะนั้นปัญหาทุกด้านก็สามารถทำควบคู่กันไปได้ ตนไม่อยากให้เกิดความเข้าใจว่า ประเทศกำลังมีปัญหาโควิด แล้วจะมาแก้รัฐธรรมนูญ ทำไมไม่แก้โควิดให้จบก่อน ความจริงหลายปัญหาก็สามารถทำควบคู่กันไปได้ โควิดก็ต้องแก้ เศรษฐกิจก็ต้องแก้ แต่ปัญหาการเมืองก็ต้องทำควบคู่กันไป หนึ่งในปัญหาการเมืองคือการแก้รัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีมาตราใดบ้างในร่างของพลังประชารัฐที่ประชาธิปัตย์พอจะเห็นด้วย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ก็ต้องดูว่ามาตรานั้นๆ นำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นหรือไม่ ถ้าถอยหลังเข้าคลองแล้ว การไปร่วมก็จะกลายเป็นทำให้รัฐธรรมนูญติดลบหนักเข้าไปอีก ประชาธิปไตยก็ติดลบหนักเข้าไปอีกด้วย มันควรจะต้องบวกขึ้น คือให้เป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น หลักของพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนตั้งแต่ต้นแล้ว ซึ่งตนได้ประกาศตั้งแต่วันแรกที่เป็นหัวหน้าพรรค ยังไม่เปลี่ยนแปลง ส่วน นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาเอาผิด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160(4) เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตกรณีการปกปิดข้อมูลจำคุกตามคำพิพากษาศาลออสเตรเลียว่า ในวันที่ 13พ.ค. เวลา 13.30น. คณะอนุกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ชุด2 ที่มีตนเป็นประธานจะประชุม เพื่อดำเนินการเอาผิดร.อ.ธรรมนัสภาคสอง จะวางกรอบแนวทางพิจารณาดำเนินการเอาผิดในช่องทางต่างๆเพิ่มเติม อาทิ กรณีทำผิดจริยธรรม กรณีความซื่อสัตย์สุจริตเรื่องการปกปิดข้อมูลถูกจำคุกต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)ในการรับตำแหน่งรัฐมนตรี รวมถึงการรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตลอดจนการพิจารณาเอาผิดกรณีที่ร.อ.ธรรมนัสอาจจะเกี่ยวข้องกับการส่งออกยาเสพติดจากประเทศไทย แล้วไปถูกจับกุมได้ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อปี 2536 ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกมธ.ป.ป.ช. ชี้ช่องทางให้รื้อฟื้นคดี เพราะยังมีอายุความเหลืออีก 3ปีที่จะหมดอายุความในปี2566 ซึ่งจะพิจารณาว่า จะมีข้อเท็จจริงเพียงพอเอาผิดในประเด็นดังกล่าวได้หรือไม่ นายธีรัจชัย กล่าวต่อว่า การประชุมในวันที่ 13 พ.ค. จะวางแนวทางพิจารณาเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อกมธ. อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) มาให้ข้อมูลต่อกมธ. เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงคดีการส่งออกยาเสพติดปี 2536 ที่ถูกจับที่ประเทศออสเตรเลียว่ามีความเกี่ยวข้องกับใครบ้าง และร.อ.ธรรมนัสมีความเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นอกจากนี้จะพิจารณาเชิญ นายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. มาให้ความเห็นเกี่ยวกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญปี 2560 รวมถึงนักวิชาการคนอื่นๆที่โพสต์ข้อความให้ความเห็นถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐ ธรรมนูญที่ขัดกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ นอกจากนี้จะวางกรอบพิจารณาเอาผิดไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหมด้วย กรณีกลั่นกรองคุณสมบัติคนมาเป็นรัฐมนตรี วันเดียวกัน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ได้โพสต์ข้อความเป็นครั้งแรกลงในไลน์กลุ่ม สื่อมวลชนนักศึกษาและกิจกรรม หัวข้อ "สารแรกแห่งอิสรภาพ" มีใจความสรุปว่า การคุมขังผม 93 วัน และการอดอาหารประท้วงความอยุติธรรมเป็นเวลา 57 วัน ของผมสิ้นสุดลงแล้ว โดยที่ศาลได้คืนสิทธิประกันตัวให้ผมและพี่แอมมี่แล้ว แม้จะเป็นการประกันตัวโดยที่ศาลกำหนดเงื่อนไขมาบางประการ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเงื่อนไขที่ตั้งขึ้นเพื่อสกัดกั้นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ผมจะถือว่าการที่ศาลเอาเรื่องทางการเมืองมาตั้งเงื่อนไขนี้เป็นเรื่องที่ศาลจะต้องพิจารณาตัวเองว่าดำรงตนในความยุติธรรมหรือไม่ นี่คือการวางบรรทัดฐานว่าคดีมาตรา 112 ก็มีสิทธิได้รับการประกันตัว จากเดิมที่ในอดีตนั้นแทบไม่มีการได้ประกันตัวเลย และผมเชื่อว่ากฎหมายป่าเถื่อนมาตรานี้จะถูกยกเลิกไปในไม่ช้า ในส่วนของเงื่อนไขนั้น ผมเห็นว่าไม่ได้ขัดข้องอะไรต่อการเคลื่อนไหว เพราะเงื่อนไขข้อที่ว่า ห้ามมิให้สร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันนั้น ผมก็ไม่เห็นว่า ผมจะสร้างความเสื่อมเสียอะไรให้สถาบัน เพราะผมไม่คิดว่าสถาบันจะเสื่อมเสียลงเพียงเพราะการที่ประชาชนพูดความจริง เช่นเดียวกับเรื่องการเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ทวงคืนทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (เช่น หุ้น SCB) ยกเลิกกองกำลังส่วนพระองค์ เหล่านี้ผมไม่เห็นว่า จะสร้างความเสื่อมเสียให้สถาบันได้อย่างไร หากจะมองว่าการเรียกร้องให้กษัตริย์อยู่ใต้รัฐธรรมนูญนั้นเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ก็คงจะต้องถามกันต่อว่าประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์เป็นประมุขหรือปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์กันแน่ "สำหรับผม การต่อสู้เพื่อปฏิรูปสถาบันจะดำเนินต่อไปสำหรับเงื่อนไขเรื่องห้ามเข้าร่วมการชุมนุมที่ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองนั้น ผมยืนยันว่าตลอดการต่อสู้ที่ผ่านมา ผมยึดมั่นในหลักการไม่ใช้ความรุนแรง การชุมนุมที่ผมเข้าร่วม หรือได้มีส่วนร่วมจัดนั้นล้วนแต่เป็นการชุมนุมโดยสงบ สันติ และปราศจากอาวุธทั้งสิ้น เท่าที่เห็นก็มีแต่จะไม่สงบบ้างเพราะถูกเจ้าหน้าที่ ผู้ชุมนุมฝ่ายรัฐ และผู้ไม่ประสงค์ดีมาใช้กำลังเพียงเท่านั้น ดังนั้น ผมจึงเห็นว่าเงื่อนไขข้อนี้จะไม่เป็นอุปสรรคในการต่อสู้ของผมเช่นกัน และผมพร้อมที่จะเข้าร่วมทุกกิจกรรมหลังจากที่วิกฤติการณ์โรคระบาดระลอกนี้ (ซึ่งเกิดจากความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล) ได้ผ่านพ้นไปแล้ว การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะยังดำเนินต่อไปด้วยความเข้มข้นและเข้มแข็ง การต่อสู้ของเราดำเนินอยู่บนสัจธรรมความจริง เพราะไม่มีพลังใดจะยิ่งใหญ่เท่าพลังแห่งความจริง และความจริงย่อมเป็นสิ่งนิรันดร์ประดุจดวงดาว เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่มุมใดของฟ้า ดวงดาวก็จรัสแสง เช่นเดียวกับความจริง ไม่ว่าจะอยู่ในกรงขัง ในเครื่องทรมาน หรือที่หลักประหาร ความจริงก็ยังคงเป็นความจริงที่ทรงพลังและไม่มีวันตาย ก้าวต่อไปเฉพาะหน้า เราจะต้องช่วยกันปลดปล่อยผู้พูดความจริงอีกหลายคนที่ยังถูกจองจำอย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นทนายอานนท์ พี่ไมค์ ระยอง แฟรงค์ ณัฐชนน และอีกหลายๆ ท่าน เราผู้รักประชาธิปไตยทั้งหลายยังจะต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ให้เห็นอย่างสมบูรณ์ว่าการพูดความจริงไม่ผิด และความเท็จไม่อาจคุมขังปิดบังความจริงได้ตลอดไป ผมยังคงเป็นผม และยังคงศรัทธาในความจริงที่ว่าไม่มีใครหมุนเข็มนาฬิกากลับได้ และสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงซึ่งกำลังพัดโบกจะพาเราไปสู่อีกด้านหนึ่งของขอบฟ้าในไม่ช้านี้ ส่วนในระหว่างนี้ ตัวผมขอพักฟื้นร่างกายและหาอะไรกินก่อน จะเดินไปกับพี่น้องทุกท่านอีกครั้ง ผมยังคงเป็นคนเดิม สู้เพื่ออุดมการณ์ดังเดิม และจะมุ่งมั่นต่อการต่อสู้มากกว่าเดิมครับ ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ 12 พฤษภาคม 2564 (1 วันหลังคืนสู่อิสรภาพ)" ขณะที่ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า .."สวัสดีค่ะทุกคน มีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนทราบนะคะว่าหลังจากที่ออกจากทัณฑสถานหญิงกลางเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา หนูเพิ่งได้รับผลตรวจโควิด และพบว่าหนูติดเชื้อค่ะ กำลังเข้ารับการรักษาที่รพ.ธรรมศาสตร์ทันที และตอนนี้หนูได้แจ้งคนที่ใกล้ชิดหนูทุกคนแล้วค่ะ หนูขอโทษทุกคนที่ได้มาสัมผัสหรือใกล้ชิดหนูจริงๆนะคะ หนูไม่คิดว่าตัวเองจะติดเลยเพราะไม่มีอาการจนช่วงค่ำของเมื่อคืน และเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อทุกคนหนูเลยมาแจ้ง timeline ให้ทุกคนทราบค่ะวันก่อนที่จะปล่อยออกมาทราบว่ามีผู้ติดเชื้ออยู่ในทัณฑสถานหญิงกลางแล้วมากกว่า 50 คน และหนูคาดว่าตอนนี้ทั้งในทัณฑสถานหญิงกลางและเรือนจำอื่นคงมีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาล ขอให้ทางภาครัฐและกรมราชทัณฑ์ ออกมาชี้แจงและเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อในเรือนจำอย่างตรงไปตรงมาด้วยนะคะ"