เมื่อวันที่ 12 พ.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และพรรคไทยสร้างไทยยังระดมทีมเดินเท้าเข้าชุมชน ในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะมีผู้ติดเชื้อใน ลำดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ อย่างในเขตจตุจักร และเขตลาดพร้าวที่มีผู้ติดเชื้อกว่า 350 ราย ในแต่ละเขต และมีชุมชนแออัดหลายแห่ง โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าได้มอบหมายให้นายประพนธ์ เนตรรังษี และอดีตส.ก. และนางสาวบุณฑริกา ประสงค์ดี ดูแลใน 2 เขตนี้ โดยได้มอบตะกร้าป้องกันโรค ที่บรรจุอาหาร ยาและหน้ากาก เพื่อมอบให้บ้านที่มีผู้ติดเชื้อ และมอบถุงแดงเพื่อใส่แยกขยะจากบ้านผู้ติดเชื้อ ในโครงการถุงแดงเปี่ยมแรงใจ ที่ทีมไทยสร้างไทย จัดทำขึ้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่างว่า ขณะนี้ยังมีผู้ติดเชื้อ และผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อ ต้องถูกกักตัวในชุมชนอีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทุกชุมชนที่ไปเยี่ยมประชาชนได้ร้องขอให้มีการตรวจเชิงรุกในชุมชน เพราะได้มีการระบาดจากหนึ่งคนไปติดทั้งครอบครัว และจากหนึ่งบ้านก็ไปติดอีกหลายบ้านในชุมชน เป็นเช่นนี้เกือบทุกชุมชนที่ได้เดินเท้าเข้าไปพบเห็น ถ้าเราปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ ก็จะควบคุมการแพร่ระบาดได้ยาก และต้องใช้เวลายาวนาน กว่าจะสยบการระบาดในรอบนี้ได้ ซึ่งเราคงต้องสูญเสียชีวิตของประชาชนอีกหลายร้อยราย และความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ตามตัวเลขที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ประเมินว่า เฉพาะในไตรมาส 2 นี้ไตรมาสเดียวก็จะทำให้เศรษฐกิจพังไปถึง 450,000 ล้านบาท คุณหญิงสุดารัตน์ กล่างว่า ขอย้ำว่ามันจะกลายเป็นสึนามิทางเศรษฐกิจที่จะกวาด คนตัวเล็กทุกคนอย่างย่อยยับ จึงวอนขอผู้มีอำนาจ ได้โปรดใส่ใจ และทุ่มเทต่อการ ตรวจเชิงรุก เพราะเป็นหนทางเดียวที่เราจะคุมการระบาดได้เร็วที่สุด ดังที่ตนได้พยายามเสนอมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ขอรัฐบาลได้โปรดฟังเสียงเรียกร้อง ของประชาชนที่มีความทุกข์อย่างแสนสาหัสเหล่านี้ด้วย และทุกฝ่ายต้องร่วมแรงร่วมใจเพื่อจะฟันฝ่ามหาวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ ตนเองก็จะช่วยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ตนและทีมไทยสร้างไทยจะยังคง เดินเท้าเข้าชุมชนอย่างต่อเนื่อง จะไม่ทอดทิ้งให้พี่น้องประชาชนต้องต่อสู้โดยลำพัง