จากกรณีที่มีรายงานว่า จังหวัดลำปางมีผู้ลงทะเบียนเข้าขอรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากกรุงเทพฯโดยมีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 2 แสนคน ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้ชี้แจงประเด็นการบริหารจัดการเรื่องการจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 ของจังหวัดลำปาง จากการสรุปข้อมูลการจองการฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายที่ 1 ผู้สูงอายุ และประชาชนที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ของแอพพลิเคชั่น หมอพร้อม จังหวัดลำปางมีจำนวนการจอง 223,976 คน ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่มีอยู่ คือจังหวัดลำปาง มีผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 24 ของจำนวนประชาชน จากข้อมูลมีประชาชนกลุ่มอายุ 60 ขึ้นลงทะเบียนประมาณ 190,000 คน มีผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ประมาณ 30,000 คน รวม 220,000 คน โดยผู้ว่าฯลำปาง กล่าวว่า เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ทุกชนิดมีศักยภาพในการลดการเจ็บป่วยที่รุนแรง และลดการเสียชีวิต รวมทั้งทำให้ประเทศไทยเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ จึงต้องการให้ชาวลำปางได้รับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุดและเร็วที่สุด คือประมาณ 500,000 คน จังหวัดลำปางจึงมีการบริหารจัดการ ดังนี้ ในเบื้องต้นหน่วยงานสาธารณสุขนำเข้าข้อมูลสุขภาพของประชาชน เข้าระบบข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อจองการฉีดวัคซีนให้สอดรับกับศักยภาพของหน่วยบริการ และจองวัคซีนจากรัฐบาลให้เพียงพอกับจำนวนประชาชนของจังหวัดลำปาง ขณะที่นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวว่า วัคซีนที่ดีที่สุด คือวัคซีนที่ฉีดเข้าร่างกาย ทุกตัวมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยที่ดีพอ ซึ่งระบบของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกแบบไว้ มีการเฝ้าระวัง ดูแลอาการอันไม่พึงประสงค์หลังจากได้รับวัคซีน จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดลำปาง ฉีดวัคซีนให้มากที่สุด หากจังหวัดลำปางฉีดวัคซีนได้ถึง 500,000 – 600,000 คน สามารถถอดหน้ากากดำเนินชีวิตประจำวันได้ ทั้งนี้ที่การทำงานเชิงรุกในการรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง ทุกฝ่ายได้ผนึกกำลังกันลงพื้นที่สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนจนสามารถทำให้ประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้นและทำให้มียอดจองเกินกว่าร้อยละ60แล้ว โดยการบูรณาการ นายนเรศวร์ฤทธิ์ อุบลศรี นายอำเภอเสริมงาม ได้กล่าวว่าอำเภอเสริมงามได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครอง คืออำเภอเสริมงามร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเสริมงาม และ รพ.สต.แต่ละพื้นที่ อสม.และผู้นำท้องถิ่นต่างๆ โดยเริ่มแรกได้ให้ผู้บริหาร ผู้นำท้องถิ่น อสม.กว่า100คนฉีดวัคซีน เพื่อสรางความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ จากนั้นได้ให้ผู้นำท้องถิ่นกระจายความเข้าใจสู่ประชาชน รวมถึง ร่วมกับ อสม.ลงพื้นที่ทำความเข้าใจให้กับประชาชนที่อาจจะลังเล หรือรับทราบข่าวสารมาก่อนหน้านี้ว่าวัคซีนไม่ปลอดภัย ซึ่งทางอำเภอได้ทำงานร่วมกับ3หน่วยงานปูพรมให้ความรู้และรับลงชื่อให้ชาวบ้านมาตั้งแต่เดือนเมษายน โดยตอนแรกมีประชาชนให้ความสนใจเพียง30%แต่หลังจากที่ลงพื้นที่จนถึงวันนี้ มีผู้แจ้งความจำนงค์แล้วกว่า60% ซึ่งการลงทะเบียนเจ้าหน้าที่จะกรอกชื่อในสมุดบันทึกและนำมาลงในระบบ และแจ้งวันที่เพื่อให้ผู้แจ้งสิทธิ์ไปรับการฉีดวัคซีน ในช่วง7พ.ค.-31ก.ค.นี้