เมื่อเวลา 11.55 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ในฐานะนายกฯ และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. จะขอมารายงานความก้าวหน้าของผลการดำเนินมาตรการที่ได้สั่งการลงไปแล้ว เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เรื่องที่หนึ่ง คือเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่คลองเตย ซึ่งตนได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก และกระทบกับชีวิตความปลอดภัยของประชาชน เรื่องนี้ตนในฐานะผอ.ศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังเข้าป้องกันการลุกลามอย่างเต็มที่ โดยมียุทธวิธีสำคัญในการเอาชนะศึกครั้งนี้ คือการระดมตรวจเชิงรุกในพื้นที่เป้าหมายให้ได้มากที่สุด
นายกฯ กล่าวว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ในกทม.และปริมณฑล เรามีการตรวจไปแล้วมากกว่า 70,000 ราย ในชุมชนที่มีความเสี่ยงเฉลี่ย 7,000 รายต่อวัน ผลที่เกิดขึ้นเราสามารถระบุตัวผู้ติดเชื้อ และคัดแยกผู้ติดเชื้อไปรักษาได้อย่างทันการณ์ รวมทั้งแยกผู้มีความเสี่ยงไปกักตัว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่อ จำกัดวงการแพร่ระบาดให้แคบที่สุดและสั้นที่สุด ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจจะเห็นยอดผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการตรวจเชิงรุกแบบปูพรมของเรา ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในช่วงนี้อาจจะยังมีขึ้นมีลงอยู่บ้าง แต่ทางทีมแพทย์เชื่อมั่นว่าด้วยวิธีนี้ จะทำให้เราควบคุมสถานการณ์ได้ในไม่ช้า และยอดผู้ติดเชื้อจากในพื้นที่จะค่อยๆ ลดลง ซึ่งล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อในกทม.เริ่มทรงตัว ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดี แต่เราก็ยังไม่นิ่งนอนใจ จะดำเนินการตรวจเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงต่อไปให้มากและเร็วที่สุด
นายกฯ กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็เร่งระดมฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนให้มากที่สุด เพื่อตัดวงจรสะเก็ดไฟที่ปะทุอยู่ในเวลานี้ จนถึงวันนี้ได้มีการฉีดวัคซีนในพื้นที่คลองเตยไปแล้วมากกว่า 13,000 คน หรือเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ของเป้าหมายที่จะฉีดให้ได้อย่างน้อย 50,000 คน และพื้นที่ปทุมวันที่อยู่ใกล้เคียง ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมาย 14,000 คน โดยเฉลี่ยแล้วทั้งสองเขตฉีดได้มากกว่าวันละ 2,000 คน โดยผลการดำเนินการจากคลัสเตอร์คลองเตย จะใช้เป็นแนวทางในการจัดการกับการแพร่ระบาดในพื้นที่เขตอื่นๆของ กทม.และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัดด้วย วันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการใช้แซนบ๊อกที่เราร่างขึ้นมาแล้วดำเนินการ ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง หรือพื้นที่สีแดง วันหน้า หากเกิดการแพร่ระบาดต่อไปอีกเราจะใช้แนวทางนี้ปฏิบัติต่อไป