จากกรณี ผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกเมษายนรายที่ 109 เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา มีโรคประจำตัวคือโรคเบาหวาน ติดเชื้อมาจากสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน โดยผู้ป่วยเสียชีวิตจากปอดอักเสบติดเชื้อโควิด และติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเมื่อวานนี้ (8 พฤษภาคม 64) รวมระยะเวลาการรักษา 16 วัน ซึ่งถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของการระลอกเมษายนของจังหวัดมหาสารคาม โดยไทม์ไลน์ของยายวัย 80 รายนี้ อาศัยอยู่ที่อำเภอบรบือ จ.มหาสารคาม ต่อมาเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2564 ได้ออกไปร่วมงานมงคลและร่วมรับประทานอาหารกับญาติพี่น้อง ที่บ้านหนองหญ้าปล้อง อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จากนั้นก็อยู่แต่ที่บ้านไม่ได้ออกไปไหนมาโดยตลอด จนมาทราบว่าได้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันโควิด-19 จำนวน 2 รายในงานมงคลที่ได้ไปร่วมงาน จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงและได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลบรบือ จ.มหาสารคาม และผลการตรวจมีการพบเชื้อ จากนั้นแพทย์ได้ส่งตัวมารับการรักษาตัวต่อ ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม แต่ด้วยผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว ประกอบกับอาการปอดอักเสบติดเชื้อโควิด และติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน จึงทำให้อาการลุกลามและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เมื่อวานนี้ (8 พฤษภาคม 64) รวมระยะเวลาการรักษา 16 วัน ซึ่งถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของระลอกเมษายนและเป็นผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในพื้นที่รายที่ 3 ทั้งนี้การจัดการศพผู้เสียชีวิต ได้ดำเนินการตามมาตรฐานโดยบรรจุศพไว้ในถุงซิปกันน้ำ 2 ชั้น ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคฉีดพ่นด้านนอกถุงบรรจุศพไม่มีการอาบน้ำศพ รดน้ำศพ ไม่มีการเปิดถุงบรรจุศพ โดยศพได้ถูกนำไปฌาปนกิจที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอบรบือเรียบ