เมื่อวันที่ 9 พ.ค.น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้ลงพื้นที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ที่หมู่บ้านโกลเด้นซิตี้ สาธร แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง เป็นชุมชนใหญ่ 3 หมู่บ้านเชื่อมต่อกัน 400 หลังคาเรือน ควบคู่ไปกับการณรงค์ป้องกันตนเองตามมาตรการด้านสาธารณสุข คือใส่หน้ากาก ล้างมือและเว้นระยะห่าง ทั้งนี้ได้มีพี่น้องประชาชนสอบถามถึงการขอรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าขณะนี้รัฐบาลได้เปิดให้ลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านระบบ “หมอพร้อม” ซึ่งมีโรงพยาบาลในระบบหลายโรงพยาบาลทั้งโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนและจุดบริการฉีดวัคซีนทั้ง 14 จุดในกรุงเทพมหานคร สามารถเลือกได้ตามความสะดวกของพี่น้องประชาชน หรือแม้แต่คนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็สามารถแจ้งได้ที่โรงพยาบาลที่มีสิทธิรักษา หรือผ่าน อสม. อสส. ต่างๆได้ และการรักษาอาการป่วยจากเชื้อโควิดหรือแพ้วัคซีน รัฐบาลก็รักษาให้ฟรี ขอให้ประชาชนอย่ากังวล ส่วนข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดโรงพยาบาลเอกชนไม่จัดซื้อและนำเข้าวัคซีนเองนั้น เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้ปิดกั้น และเปิดโอกาสให้โรงพยาบาลเอกชนจัดซื้อและนำเข้าได้ แต่ทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเองหลายบริษัทมีข้อกำหนดว่า การเจรจาซื้อขายวัคซีน จะต้องดำเนินการกับภาครัฐในแต่ละประเทศเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันเป็นภาวะวิกฤติของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด จึงต้องเจรจากับภาครัฐของแต่ละแประเทศเพื่อนำไปกระจายให้กับประชาขนก่อน จึงขอย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นแต่ติดเงื่อนไขของบริษัทผู้ผลิตเอง น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนข้อกังวลของพี่น้องประชาชนว่าจะได้ฉีดวัคซีนหรือไม่เวลาใดนั้น รัฐบาลยืนยันแน่นอนว่า พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนจะได้ฉีดวัคซีนและจะทยอยฉีดวัคซีนไปเรื่อยๆ โดยในวันที่ 1 มิ.ย.นี้จะเริ่มระยะที่ 2 ที่ลงทะเบียนไป และจะขยายไปยังกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ส่วนพี่น้องประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 –59ปี จะได้ฉีดในระยะที่ 3 ในระยะถัดไป โดยตนยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลได้นำเข้าวัคซีนมาเพียงพอสำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศแน่นอน ทั้งนี้การฉีดวัคซีนที่ภาครัฐดำเนินการนั้น เป็นการฉีดฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย หากมีโรคประจำตัว หรือมีข้อกังวลใจ สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดได้ “สิ่งที่น่ากังวลและน่ากลัวกว่าโควิด-19 คือข่าวปลอม จึงอยากจะฝากพี่น้องประชาชนว่าก่อนที่จะแชร์หรือส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่ได้รับนั้น ขอให้ตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงจากช่องทางของภาครัฐ ขอวิงวอนว่าอย่าแชร์ข่าวปลอมเพราะว่าจะทำให้เกิดความสับสนในข้อมูลและเกิดความเข้าใจผิดในสังคม ณ ตอนนี้พวกเราทุกคนต้องช่วยกันส่งต่อข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อจะได้ก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน ข่าวจริง รับมาแล้วส่งต่อถ้าข่าวไหนเป็นข่าวปลอมหรือข่าวบิดเบือนอย่าส่งต่อ ให้ลบทิ้งไป” น.ส.ทิพานัน กล่าว