ราชทัณฑ์แถลงการณ์ปัด "สนธิลิ้ม" ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก

กรณีมีข่าวลือว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และอดีตแกนนำม็อบพันธมิตรฯ มีอาการป่วยเส้นเลือดในสมองแตก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นการด่วน หลังศาลฎีกาตัดสินจำคุก 20 ปี ในคดีร่วมกันลงข้อความในเอกสารเท็จของ บ.มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ขัด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ในการค้ำประกันกู้เงินธนาคารกรุงไทย กว่าพันล้านบาท และถูกนำตัวเข้าเรือนจำคลองเปรม เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้รับตัวนายสนธิ เข้ามาไว้ที่แดนแรกรับ เรือนจำคลองเปรม ตามขั้นตอนการรับตัวนักโทษใหม่ปกติของกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้นักโทษใหม่ปรับตัวกับสภาพความเป็นอยู่แล้ว และต้องปฏิบัติตัวตามระเบียบของเรือนจำเหมือนนักโทษคนอื่นๆ ทั้งนี้ได้สั่งการให้ผู้คุมเฝ้าดูตลอด 24 ชม. เบื้องต้น นายสนธิ ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ โดยการถูกควบคุมตัวในคืนแรก ส่วนข่าวลือที่ป่วยเส้นเลือกในสมองแตกนั้น ไม่จริง ซึ่งนายสนธิ ยังคงปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ต่อมาเวลา 12.00 น.วันที่ 7 ก.ย. กรมราชทัณฑ์ ได้ออกแถลงการณ์ ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มผู้สื่อข่าวกระทรวงยุติธรรม โดยระบุว่ากรณีมีกระแสข่าวจากเฟสบุ๊ก ว่าผู้ต้องขัง 2 ใน 4 คดี สนธิ ลิ้มทองกุล ถูกหามส่งโรงพยาบาลเรือนจำคลองเปรมกลางดึก โดย 1 ในนั้น คือนายสนธิ ถูกหามส่งโรงพยาบาลเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงว่า น.ช.(นักโทษชาย)สนธิ ลิ้มทองกุล ยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม และสภาพร่างกายปกติไม่มีอาการเจ็บป่วยแต่อย่างใด โดยเรือนจำกลางคลองเปรม ได้รับตัว น.ช.สนธิ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 ก.ย.59 เวลาประมาณ 18.10 น. และได้ดำเนินการตามระเบียบของทางเรือนจำทุกประการ สำหรับผู้ต้องขังหญิง 2 ราย ได้แก่ น.ญ.(นักโทษหญิง) เสาวลักษณ์ ธีรานุจรรยงค์ และ น.ญ.ยุพิน จันทนา ทัณฑสถานหญิงกลางได้รับตัว เมื่อวันที่ 6 ก.ย.59 และขณะนี้ยังถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลางเช่นกัน โดยพบว่ามีอาการของโรคประจำตัว และมียาประจำตัว ความดันปกติทั้ง 2 ราย แต่ไม่ได้มี อาการหนักอย่างที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ซึ่งทางทัณฑสถานหญิงกลาง จะได้ให้แพทย์ตรวจสุขภาพอย่างละเอียดต่อไป กรมราชทัณฑ์ จึงเรียนมาเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนต่อไป ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่าน กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม 7 กันยายน 2559