เมื่อวันที่ 7 พ.ค.นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิดระลอก 3 ที่ออกมาล่าสุดนั้น มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งไม่ตรงจุดเจ็บ ล่าช้าไม่ทันการณ์ ปล่อยให้ประชาชนดิ้นรนเองกว่า 1 เดือน ทั้งที่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากการลงทะเบียนครั้งก่อนอยู่แล้ว แต่ยังปล่อยให้ประชาชนได้รับผลกระทบเหมือนรัฐบาลตั้งตัวไม่ทัน ตั้งแต่มาตรการลดค่าไฟ ที่ควรให้มีผลในเดือนเมษายนที่ประชาชนใช้ไฟสูงด้วยสภาพอากาศ และมีการเริ่มรณรงค์ให้อยู่บ้านแล้ว แต่กลับลดค่าไฟในรอบบิลเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ทำให้ประชาชนมีแนวโน้มได้ส่วนลดการเยียวยาเพียงน้อยนิด หรืออาจจะไม่ได้รับเลย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้เก่งแต่ประดิษฐ์ชื่อมาตรการกว่าสิบชื่อ แต่กลับไม่มีประสิทธิภาพ ประชาชนจำนวนมากยังตกหล่นจากระบบการบังคับให้ใช้สมาร์ทโฟน ไม่สามารถแปลงการช่วยเหลือเป็นเงินสดได้ ทั้งๆที่เงินเยียวยาควรเป็นเงินประคองชีวิตของประชาชน ควรส่งถึงมือให้เร็ว ให้ง่าย เพียงพอต่อการยังชีพ แต่การระบาดรอบนี้รัฐกลับเยียวยาด้วยเงินที่น้อยเป็นประวัติการณ์ เพียง 2,000-3,000 บาทต่อคน ไม่สอดคล้องกับความเข้มข้นของมาตรการของรัฐที่สั่งปิดกิจการ “ผมขอเรียกร้องให้รัฐบริหารประเทศด้วยข้อมูลและความรู้ หยิบฐานข้อมูลที่เคยลงทะเบียนไว้มาวิเคราะห์ มิเช่นนั้นเราคงเห็นภาพงานสวดมนต์ใหญ่ในรอบนี้มีคนมาร่วมล้นหลาม เพราะรัฐคงไม่ใช่ที่พึ่งที่หวังของประชาชนอีกต่อไป” นายชนินทร์กล่าว