นายวสุเชษฐ์ โสภณเสถียร นายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไป (สปข.) รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมธุรกิจทัวร์นำเที่ยวได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิด-19 ตั้งแต่รอบแรก ช่วงเดือนมีนาคม 2563 ก่อนจะฟื้นตัวได้บ้างในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2563 และทรุดตัวลงอีกครั้ง หลังจากเกิดการระบาดระลอก 2 ช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องจนถึง 2 เดือนแรก คือ เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2564 โดยผลกระทบจากการระบาดโควิดตั้งแต่เริ่มต้นปี 2564 มาจนถึงปัจจุบัน รายได้หายไปกว่า 95% หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ นายวสุเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ธุรกิจทัวร์นำเที่ยวได้รับผลกระทบจากโควิดมากว่า 1 ปีเต็มแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการของรัฐบาล ขออะไรไปไม่เคยได้ ต้องการให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการทัวร์นำเที่ยวเพิ่มเติม แม้จะยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถออกมาตรการอะไรมาช่วยเหลือภาครถขนส่งโดยสารบ้าง ทั้งจากกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม หรือกระทรวงการคลัง เนื่องจากข้อเรียกร้องที่เคยขอไปยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมาจากภาครัฐ ขณะที่มาตรการโกดังเก็บหนี้ หรือ Asset Warehousing ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หากสามารถนำทะเบียนรถที่มีอยู่ ซึ่งยังไม่ได้ติดภาระหนี้สินต่างๆ นำเข้าเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยไม่ต้องประเมินราคาในระดับสูงมากนักก็ได้ เบื้องต้นขอแค่ 7-8 แสนบาทต่อคันเท่านั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินสดออกมาใช้หมุนเวียนในธุรกิจก่อน รวมถึงการซ่อมบำรุงรถที่จอดสนิทอยู่ร่วม 1 ปีเต็มด้วย เพราะรถที่จอดอยู่นิ่งๆ ไม่สามารถนำมาใช้งานทันทีได้ ราคาในการซ่อมบำรุงรถแต่ละคัน ตกอยู่ประมาณ 2-3 แสนบาท โดยผู้ประกอบการทัวร์นำเที่ยวในตลาดรวม มีจำนวนประมาณ 50,000 ราย ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 40% หรือ 20,000 รายเท่านั้น หากมีงานกลับมาก็สามารถดำเนินธุรกิจต่อได้ในภาวะที่เกิดวิกฤติขึ้น แต่ยังไม่มีมาตรการออกมาช่วยเหลือจากรัฐบาล ส่วนอีก 40% หรือ 20,000 ราย ปิดธุรกิจแบบถาวรไปแล้ว ส่วนอีก 20% หรือ 10,000 ราย อยู่ก้ำกึ่งระหว่างการปิดชั่วคราวและปิดถาวร