นายก อบจ.นครพนม หญิงแกร่ง "ศุภพานี โพธิ์สุ" ระดมทีม อบจ.ทำงานเชิงรุก ไม่มีวันหยุด จากเช้ายันหกทุ่ม เร่งสำรวจวางแผนนโยบายพัฒนา สร้างอาชีพ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน 12 อำเภอ เน้นลงพื้นที่จริง รับทราบปัญหา ขานรับนโยบายรัฐบาล นำร่อง 300 หมู่บ้าน กว่า 900 โครงการ พัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ ดูแลด้านสุขภาพ สู้ภัยโควิด มั่นใจแค่ปีเดียว นครพนม เกิดความเปลี่ยนแปลง ทั้งเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว ต้องดีกว่าเดิม ภายหลังมีการเปลี่ยนแปลง จากการเลือกตั้งท้องถิ่น อบจ.นครพนม ซึ่งผลการเลือกตั้ง ปรากฏว่า นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ อายุ 36 ปี ลูกสาว นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือ ครูแก้ว รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 อีกทั้งยังเป็น ส.ส. เขต 1 นครพนม พรรคภูมิใจไทย ชนะการเลือกตั้ง ขึ้นนั่งตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นครพนม ล้มแชมป์เก่า ด้วยคะแนนนิยมท่วมท้น ถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้งทางการเมืองท้องถิ่น นับเป็นนายก อบจ.นครพนม หญิงแกร่ง คนที่สอง ของ จ.นครพนม ที่เข้ามารับตำแหน่ง การเลือกตั้งนายกอบจ.นครพนม ครั้งนี้ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และถือเป็นประวัติศาสตร์ ทางการเมือง ของ จ.นครพนม ที่มีการรวมทีม บุคคลสำคัญจากพรรคการเมืองระดับชาติต่างพรรค เข้ามาร่วมสนับสนุนการพัฒนา เนื่องจากในการรับตำแหน่งของนายก อบจ.หญิงแกร่ง คนใหม่ ได้นำเอา คณะผู้บริหาร มาจาก อดีต ส.ส. คนสำคัญของ จ.นครพนม มานั่งเป็นทีมผู้บริหาร นั่งรองนายก อบจ.นครพนม ถึง 2 คน คือ นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 4 นครพนม รวมถึง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อแผ่นดิน และ มีที่ปรึกษาอีกคนคือ นางสุจินดา ศรีวรขาน อดีต รองนายก อบจ.นครพนม ภรรยา ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 นครพนม นอกจากนี้ยังได้มี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.ธนบวร สิริคุณากรกุล มานั่งประธานที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ซึ่งถือเป็นคนหนุ่มไฟแรง ที่มีความรู้ความสามารถวิสัยทัศน์ เรื่องการวางแผนพัฒนาท้องถิ่นมานานหลาย 10 ปี ร่วมกับ ครูแก้ว นำมาเสริมทัพ เพื่อทำงานเชิงรุก สร้างความเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนา จังหวัดนครพนม ทั้ง 12 อำเภอ แบบเชิงรุก เข้าถึงประชาชน ให้สมกับเป็นเมืองพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน ที่สำคัญของภาคอีสาน นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือนากยกขวัญ อายุ 36 ปี นายก อบจ.นครพนม หญิงแกร่ง เปิดเผยว่า หลังเข้ามารับตำแหน่งเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ต้องยอมรับว่า ตนและทีมงาน ต้องทำงานหนักเชิงรุก เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองกำลังได้รับกระทบจากปัญหาโรคโควิดระบาด ชาวบ้าน ทั้ง 12 อำเภอ ส่วนใหญ่ ได้รับผลกระทบ ทั้งอาชีพทั้งรายได้ รวมถึงปัญหาด้านสุขภาพ ต้องอยู่ภายใต้มาตรการดูแลควบคุมโรค บางรายขาดรายได้ สิ่งสำคัญการทำงานของ อบจ. นครพนม ถือเป็นหัวใจสำคัญของท้องถิ่น ที่จะต้องเข้าไปดูแลทุกข์สุขของชาวบ้าน รวมถึงเข้าไปรับทราบปัญหาด้วยการลงพื้นที่จริง รับทราบปัญหาจริง แทนการนั่งทำงานในสำนักงาน และวางแผนแค่เชิงนโยบาย ดังนั้น จึงระดมทีมทุกภาคส่วน ทำหน้าที่ทั้งทีมวางแผนพัฒนาด้านการเสนอนโยบาย รวมถึงทีมลงพื้นที่สำรวจ รับทราบปัญหาจากชาวบ้าน ในพื้นที่จริง ทั้ง 12 อำเภอ เพื่อให้สอดคล้องความต้องการของประชาชน ทำให้ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา ทีม อบจ.นครพนม ต้องทำงานหนัก ไม่มีวันหยุด เจ้าหน้าที่ทุกคน ต้องทำงานเชิงรุกจากเช้า ยันหกทุ่ม เกือบทุกวัน เพื่อให้แผนพัฒนา อบจ.นครพนม เกิดการพัฒนาสอดคล้องทันเหตุการณ์กับการพัฒนาของรัฐบาล เพื่อให้ ประชาชนชาว จ.นครพนม ได้รับประโยชน์มากที่สุด รวมถึงได้รับงบประมาณที่เหมาะสม ทั่วถึงครอบคลุมทุกพื้นที่ เบื้องต้นได้นำร่อง สำรวจจัดทำโครงการวางแผนพัฒนา ทั้งด้านการส่งเสริมอาชีพ การพัฒนาดูแลด้านสุขภาพ การพัฒนาแหล่งน้ำ ส่งเสริมอาชีพการเกษตร รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยได้นำร่องจัดทำโครงการ แล้ว 300 หมู่บ้าน ที่จำเป็นเร่งด่วน ในพื้นที่ 12 อำเภอ รวม 900 โครงการ เพื่อที่จะเสนอแผนของบประมาณจากรัฐบาลมาดูแลช่วยเหลือประชาชน และคาดว่า อีกไม่นานจะเร่งดำเนินการทำแผนพัฒนาไม่ต่ำกว่า 2,000 โครงการ ให้ประชาชนทั้ง 12 อำเภอได้รับประโยชน์มากที่สุด นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือนากยกขวัญ กล่าวอีกว่า ในการวางแนวทางพัฒนา อบจ.นครพนม เราเน้นให้ความสำคัญที่สุดคือ การมีส่วนร่วมของประชาชน และการเข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ รับทราบปัญหาจากพื้นที่จริง ไม่ยึดติดเรื่องพรรค เรื่องพวก หรือฝ่ายการเมือง เราพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เกิดแนวทางการพัฒนาร่วมกัน ประชาชนจะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด ที่สำคัญ งบประมาณที่นำมาพัฒนาจะต้องไม่กระจุกอยู่พื้นที่หนึ่งพื้นที่ใด จะต้องกระจายไปยังทุกอำเภอ โดยจะเน้น พื้นที่สำคัญเร่งด่วน เข้าปำเนินการตามลำดับความสำคัญ "นอกจากนี้ในการพัฒนาท้องถิ่น ในภาวะโควิดระบาด สิ่งสำคัญที่สุด ทาง อบจ.นครพนม ได้ ให้การสนับสนุน ในเรื่องการดูแลด้านสุขภาพ การสนับสนุนอุปกรณ์ งบประมาณ ในการควบคุมดูแลป้องกันโรคโควิดระบาดควบคู่ไปด้วย ฝากถึงพี่น้องประชาชน รวมถึง เจ้าหน้าที่ ทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาชน เราพร้อมที่จะรับฟังทุกปัญหา และพร้อมสร้างความร่วมมือ ในการพัฒนาทุกด้าน หากเป็นความต้องการของประชาชน" นายกอบจ.นครพนม กล่าว