เมื่อเวลา 09.45 น.วันที่ 7 ก.ย.59 ร.ต.อ.สุพจน์ แรกไธสง รอง สว.(สอบสวน) สน.บุคคโล รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัย บริเวณด้านหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 14 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.จิณวัตร ก้อนทองดี ผกก.สน.บุคคโล พ.ต.ท.ปองพล เลามีชัยเจริญ สวป.สน.บุคคโล กำลังฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด(อีโอดี) ที่เกิดเหตุ พบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ สีดำ (ยี่ห้อ อัพไรซ์ (Uprise)) ขนาด 50x60 ซม. จำนวน 1ใบ วางอยู่บริเวณเก้าอี้ไม้ด้านหน้าปั๊มน้ำมันดังกล่าว ลักษณะต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงนำยางรถยนต์มาวางรอบกระเป๋าไว้ แล้วปิดให้บริการเติมน้ำมันและปิดการจราจรถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ฝั่งมุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ช่วงด้านหน้าปั๊มน้ำมันเป็นการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดีจึงเข้าไปทำการตรวจสอบ พบว่ากระเป๋าใบดังกล่าวบรรจุเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง กล่องโทรศัพท์ 1 กล่อง น้ำพริก 1 กล่อง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เมื่อสถานการณ์โดยรวมปลอดภัยแล้ว จึงเปิดบริการปั๊มน้ำมันและการจราจรให้เข้าสู่ภาวะปกติ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สอบสวน นายสมชาย ประกิตติกุล อายุ 51 ปี วินจยย.รับจ้างหน้าปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ(วินว.พินิจ เขตธนบุรี เบอร์ 12) ให้การว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเห็นชาย 1 คน อายุประมาณ 40 ปี ความสูง 170 ซม. ตัดผมเกรียนคล้ายทหาร รูปร่างผอมผิวสีดำแดง สวมเสื้อลายสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนส์ รองเท้าหนัง นอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ด้านหน้าปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ โดยมีกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่ปลายเท้า ต่อมา มีชายอีกคน อายุไล่เลี่ยกัน สูง 165 ซม. ไว้ผมรองทรง รูปร่างผอมผิวดำ สวมเสื้อลายสีแดง กางเกงยีนส์ เดินมาสะกิดปลุกชายคนแรกที่นอนอยู่ ก่อนที่ทั้งสองจะคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินออกไปมุ่งหน้าวงเวียนใหญ่ โดยที่ไม่นำกระเป๋าเดินทางไปด้วย ซึ่งตอนนั้นตนคิดว่าชายทั้งสองคงกลับมาเก็บกระเป๋าทีหลัง เลยขี่จยย.ไปทำธุระ กลับมาช่วงสายๆก็ยังพบกระเป๋าวางอยู่ เกรงว่าจะใส่ของอันตรายไว้ จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ ด้าน พ.ต.อ.จิณวัตร เปิดเผยว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จะนำกระเป๋า เสื้อผ้าและสิ่งของที่พบไปทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด และเรียกพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อสรุปสาเหตุว่า เจ้าของลืมกระเป๋าไว้จริง หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ เนื่องจากจุดเกิดเหตุใกล้กับปั๊มน้ำมัน ทั้งนี้ ปกติถ้ามีผู้ลืมกระเป๋าไว้ เจ้าหน้าที่ก็จะประสานหาเจ้าของมารับทรัพย์สินกลับไป แต่หากเป็นการสร้างสถานการณ์ก็ต้องยกระดับการออกตรวจและตั้งด่านความมั่นคงให้เข้มงวดมากขึ้น.