"ชวนคนไทยเลิกบุหรี่ ทำดีถวายพ่อ" อสม.–อสส.ทั่วประเทศร่วมปฏิญาณตน ขับเคลื่อนโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน พร้อมลงเยี่ยมผู้ป่วยจากบุหรี่ที่อยู่ระหว่างการรักษาเพื่อพัฒนาการทำงานสุขภาวะประชาชน วันที่ 29 กันยายน ที่ตึก 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ ชั้น 15 โรงพยาบาลศิริราช สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ เครือข่ายหมออนามัย และชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทย จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการและปฏิญาณตน “อสม.- อสส.ชวนเลิกบุหรี่ ทำดีถวายพ่อ” โดยแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสส.) กว่า 90 คนจากทั่วประเทศได้กล่าวปฏิญาณตนมุ่งมั่น ตั้งใจทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชน เลิกสูบบุหรี่เพื่อพ่อ ตามโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน ที่พระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนกเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ในการดำเนินงานเชิญชวนประชาชนเลิกบุหรี่ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พร้อมลงเยี่ยมผู้ป่วยจากบุหรี่ที่อยู่ระหว่างการบำบัดรักษา เพื่อให้กำลังใจและพัฒนาการทำงานเพื่อลดจำนวนคนสูบและลดผลกระทบจากพิษภัยบุหรี่ โดย ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 2559 ที่ตั้งเป้าหมายการลดอัตราการสูบบุหรี่ของคนไทยให้เหลือร้อยละ 16.7 ภายในปี 2562 จากอัตราการสูบในปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 19.9 หมายถึงต้องมีคนเลิกสูบบุหรี่ไม่น้อยกว่า 1.8 ล้านคน ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้คนเลิกสูบบุหรี่ให้ได้ตามเป้า สสส. จึงได้ริเริ่มโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทย เทิดไท้องค์ราชัน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดจำนวนนักสูบของกระทรวงสาธารณสุขและของประเทศให้เป็นจริงได้ โดยอาศัยกลไกของ อสม.และ อสส.ในการชักชวนให้คนเลิกบุหรี่ ซึ่งการประชุมเชิงปฏิบัติการ “อสม. – อสส. ชวนเลิกบุหรี่ ทำดีถวายพ่อ” ในวันนี้ จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ถึงชาวอาสาสมัครสาธารณสุขอออเพื่อร่วมกันทำความดีด้วยการช่วยคนสูบบุหรี่ให้เลิกสูบบุหรี่มากขึ้น “บุหรี่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็งถึง 12 ชนิด รวมถึงโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดสมอง โรคถุงลมโป่งพอง และเบาหวาน โดยปัจจุบันมีคนไทยกว่า 1 ล้านคนที่ป่วยด้วยโรคจากบุหรี่ นอกจากนี้ บุหรี่ยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนไทยปีละ 50,000 คน เฉลี่ยวันละ 140 คน การสูญเสียจากการสูบบุหรี่คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ปีละเกือบ 75,000 ล้านบาท หรือ คิดเป็นร้อยละ 0.78% ของ GDP ประเทศไทย ดังนั้นหากสามารถช่วยเหลือให้คนเลิกสูบบุหรี่ลดลงได้ จะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศ ลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลลงได้อย่างเป็นรูปธรรม” รองผู้จัดการ สสส.กล่าว นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันมี อสม. ราว 1 ล้านคน ทั่วประเทศ หากอสม. ทุกคนสามารถชวนหรือช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่สำเร็จได้ปีละหนึ่งคน ก็จะมีคนเลิกบุหรี่สำเร็จ 3 ล้านคนใน 3 ปี การประชุมในวันนี้มีประธาน อสม. แกนนำระดับจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด มาร่วมกิจกรรมกล่าวคำปฏิญาณตน ตั้งใจทำงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้เลิกสูบบุหรี่ มุ่งมั่นในการกทำความดีถวายพ่อของแผ่นดิน เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ เสริมพลังให้แกนนำเหล่านี้ ตลอดจนการได้เยี่ยมผู้ป่วยจากบุหรี่เพื่อให้กำลังใจ และศึกษาทำความเข้าใจผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยให้กลับไปขยายผลให้กับ อสม.ทั่วประเทศ ดำเนินการชวนคนเลิกบุหรี่อย่างเข้มแข็งต่อไป แม้จะต้องใช้ความพยายามและอดทนในภารกิจนี้ แต่ก็เชื่อว่าเป้าหมายเพื่อคนไทยมีสุขภาพดี ปลอดภัยจากบุหรี่จะเป็นจริงได้ ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงห่วงใยปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ซึ่งพระองค์เคยมีพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2547 ว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องบุหรี่ สมาพันธ์ฯ จึงพยายามขับเคลื่อนตามพระราชดำรัสของพระองค์ โดยมีพันธกิจถักทอภาคีเครือข่ายต่างๆ ทั้งภาครัฐ และนอกภาครัฐมาร่วมพลังทำให้สังคมไทยปลอดบุหรี่ เพื่อสุขภาพของคนไทยทั้งปวง ซึ่ง อสม.ถือว่ามีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด การที่ อสม.และ อสส.มาร่วมงานในวันนี้ จึงอยากให้ทุกคนกตัญญูรู้ถึงพระคุณของพระองค์ และขอให้ยึดพระองค์เป็นหลัก เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นพลังในการทำงาน ทำความดี ชักชวนคนเลิกบุหรี่ต่อไป เพราะการเข้าไปพูดคุยและชักชวนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความอดทน อ่อนน้อม และใจเย็น ซึ่งจากประสบการณ์ก็พบว่า การไปชักชวนครั้งแรกๆ มักจะได้รับการปฏิเสธ แต่ความอดทน การไปพบหาพูดคุยบ่อยๆ ด้วยความใจเย็นและอ่อนน้อม ก็จะทำให้เกิดความคุ้นเคย เป็นเหมือนเพื่อนกัน สุดท้ายก็สามารถชักนำให้เลิกบุหรี่ได้ สิ่งสำคัญคือ อยากให้ทุกคนทำความดีด้วยความสนุก ไม่ใช่การทำเพื่อหวังสิ่งตอบแทนหรือว่าจำใจทำ “สำหรับการร่วมขับเคลื่อนโครงการ 3 ล้าน 3 ปีฯ ให้ประสบความสำเร็จนั้น สมาพันธ์ฯ จะดำเนินการในระดับจังหวัดเพิ่มขึ้น โดยทำงานเชิงรุกในรูปแบบของเครือข่ายเพื่อลดการสูบบุหรี่ในกลุ่มบุคคลต่างๆ เช่น โรงเรียน ก็จะมีการบรรยายให้ความรู้เด็กเรื่องพิษภัยบุหรี่ และได้รับความร่วมมือจากคุณครูในการจัดหาเด็กนักเรียนที่สูบบุหรี่เข้ามาร่วมการเลิกบุหรี่ โดยมีคลินิกฟ้าใสที่อยู่ใกล้โรงเรียนเข้ามาร่วมติดตาม หรือการขับเคลื่อนในการกลุ่มนักกีฬา นักฟุตบอล ศิลปินดารา แรงงาน และพระสงฆ์ ทำงานเชื่อมเป็นเครือข่ายกับ อสม. อสส.และทุกภาคส่วนเพื่อหวังให้กลุ่มบุคคลเหล่านี้ลดการสูบบุหรี่ลง” ศ.พญ.สมศรีกล่าว นพ.สุนทร สุนทรชาติ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย กทม.กล่าวว่า พื้นที่ กทม.คาดว่ามีผู้สูบบุหรี่ประมาณ 9-10% หรือประมาณหลายแสนคน ซึ่ง กทม. มีความยินดีเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไท้องค์ราชัน โดย กทม. ได้มีการเตรียมความพร้อมแก่อาสาสาสมัครสาธารณสุขของกทม.กว่า 16,800 คน ทั้ง 6 โซน ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในการเลิกสูบบุหรี่ได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าให้อาสาสมัครฯ 1 คน ชักชวนคนเลิกบุหรี่ให้ได้ประมาณ 5 คน ซึ่งหลังจากมีการเปิดตัวการดำเนินงานเมื่อ ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้กำเนินการไปได้ 1 เดือน สามารถชักชวนได้แล้วประมาณ 1,000 กว่าราย นอกจากนี้ การลดการสูบบุหรี่ กทม.ไม่ได้อาศัยกลไกการชักชวนให้เลิกสูบเพียงอย่างเดียว แต่ยังเตรียมความพร้อมคลินิกบำบัดบุหรี่ ซึ่งมีการถึง 18 แห่งใน กทม.ในการรองรับการช่วยบำบัดผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่อีกด้วย ด้านนายไพฑูรย์ บุญอารักษ์ ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ได้มาเห็นผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เจ็บป่วยเพราะการสูบบุหรี่ ยิ่งทำให้เห็นชัดเจนว่าเราไม่ควรปล่อยให้คนไทยทุกข์ทรมานจากการสูบบุหรี่อีกต่อไป รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้มาโรงพยาบาลศิริราช ได้มายืนตรงจุดที่มองเห็น/ใกล้กับห้องที่พระองค์ท่านเคยประทับยามประชวรในระยะที่ใกล้มาก ที่ผ่านมาเห็นแต่ในทางทีวี ได้แต่ร่วมภาวนาให้พระองค์ท่านทรงหายจากพระประชวร การที่พวกตนได้มายืนตรงนี้วันนี้ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก ซึ่งจากนี้พวกตนจะกลับไปช่วยคนให้เลิกสูบบุหรี่ให้มากที่สุด และจะช่วยกระตุ้นให้ อสม. อสส. ทุกคน ช่วยให้ความรู้ถึงอันตรายของบุหรี่ช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ให้เต็มกำลัง และเพื่อเป็นการทำความดีถวายพระองค์