ปัจจุบันจิตใจคนล้วนแต่เล่ห์เหลี่ยมอุบาย ก่อให้เกิดเภทภัยมหาวิบัติภัยทั้งหลาย ที่โลกกำลังประสบอยู่ขณะนี้จิตใจของคนเป็นต้นเหตุ เพราะความละโมบ โกธรเกลียด ลุ่มหลง ฟุ้งเฟ้อไร้มโนธรรมสำนึก เหยียบย่ำศีลธรรม หมางเมินความดี ย่ำยีธรรมชาติ ลบหลู่ฟ้าสบประมาทดิน จิตใจตกต่ำ สะท้อนกลับมาให้เห็นในรูปแบบของความหายนะอันใหญ่หลวง อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนไม่ต่างอะไร กับกระบวนการค้ายาเสพติด ที่อาศัยวิกฤตเป็นโอกาส
ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดฉกฉวยโอกาศวิกฤติ ลักลอบค้ายาเสพติดกันในชุมชนต่างๆ เพิ่มขึ้นเช่น ด้วยความห่วงใยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ไม่นิ่งนอนใจ ระดมกำลังทุกภาคส่วนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการภายใต้ “โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน” เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ
กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เร่งแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชนอย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาความมั่นคงที่ส่งผลกระทบต่อการบริหาร และ การพัฒนาประเทศ ทั้งในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ปัญหาทางด้านสังคม เศรษฐกิจ สาธารณสุข และ ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมตรี และนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3
นำโดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน และจัดทำโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ตามวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกัน แก้ไข และการบำบัดยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน รวมถึงสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืนด้วย
"บิ๊กหลวง"พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 ที่ผ่านมาได้การดำเนินการจัดตั้งคณะทำงานชุดปฏิบัติการเข้าดำเนินการในหมู่บ้านเป้าหมาย โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 จำนวน 236 หมู่บ้าน/ชุมชน แบ่งเป็นสถานีตำรวจภูธรละ 1 หมู่บ้าน/ชุมชน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้ทุกสถานตำรวจในสังกัดเริ่มเปิดโครงการฯ เพื่อดำเนินการพร้อมกันในวันที่ 3 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป โดยให้ทุกสถานีตำรวจแต่งตั้งชุดปฏิบัติการบูรณาการปฏิบัติงานประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หน่วยงานศึกษาธิการ หน่วยงานกรมแรงงาน เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ หน่วยงานกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรในพื้นที่ ซึ่งจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการ เพื่อมอบหมายหน้าที่ในการทำงานให้ครอบคลุมชัดเจนทุกด้าน โดยเข้าพื้นที่ประจำการในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อดำเนินการแสวงหาความร่วมมือจากผู้นำชุมชน และ ชาวบ้าน
นอกจากนี้ยังให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประจำหมู่บ้าน คณะกรรมการประจำคุ้ม เป็นชุดทำงานในการให้ความร่วมมือ พร้อมสนับสนุนการทำงานของชุดปฏิบัติการอย่างเต็มที่ โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองบุคคล/ครัวเรือน เพื่อทำการกลั่นกรองรับรองบุคคล และ ครัวเรือน ว่า บุคคลที่คัดกรองจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งการค้นหาผู้เสพ ผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ากระบวนการชุมชนบำบัด การกำหนดรูปแบบการคัดกรอง และ รูปแบบการเอกซเรย์ผู้เสพอย่างเป็นรูปธรรม โดยโครงการมุ่งเน้นที่จะค้นหาผู้เสพทุกคน (เอกซเรย์ 100%) การดำเนินการกับผู้เสพ และ ผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือ เพื่อให้ชุมชน มีโอกาส มีส่วนร่วม ในการบำบัดตามหลัก CBTx และ ชุมชนบำบัด ค้นหาปัญหา และ การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การติดตาม การช่วยเหลือ การเยี่ยมบ้าน การสร้างกฎชุมชน การฟื้นฟูสังคม การดำรงความเข้มแข็ง การเฝ้าระวัง และ การติดตามประเมินผล หลังเสร็จสิ้นโครงการฯก็จะดำเนินการส่งมอบพื้นทคืนี่ เพื่อความภูมิใจของชุมชน พร้อมประกาศเป็นชุมชนเข้มแข็ง เพื่อความภาคภูมิใจของสังคม ชุมชน ให้ทุกคนมีส่วนร่วมรับผิดชอบในหมู่บ้านชุมชนของตนเอง
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า เมื่อวันนี้ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 ในฐานะหัวหน้างานป้องกันปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วยผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย หน่วยงานสาธารณสุข ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 2 ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 3 หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นายอำเภอเมืองนครราชสีมา ประธานชมรมเสริมสร้างพลังเครือข่ายชุมชนไทย จังหวัดนครราชสีมา และ ผู้นำชุมชนในพื้นที่ ร่วมแสดงพลัง ร่วมบูรณาการ “โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อให้มีการบูรณาการ การดำเนินโครงการอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามตำรวจภูธรภาค 3 ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน รวมถึงบรรดาเจ้าของกิจการสถานประกอบการทุกแห่ง ขอให้แสดงพลังประชาชนในการผลักดันโครงการดังกล่าว เพื่อให้สังคมสงบสุขอย่างยั่งยืนแท้จริง และ ขอให้แจ้งเบาะแส/ข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และ อาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทำผิด ให้กับชุดปฏิบัติการที่เข้าไปทำงานในทุกพื้นที่ หรือ ประสานมาทาง www.ชุมชนยั่งยืน.com หรือ แจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 สายด่วน 191 และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด รวมทั้งลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด