“ธนกร” ซัด ”ปลอดประสพ” สะกดคำว่าความดีถูกอยู่หรือเปล่า แนะแยกแยะผิดชอบชั่วดีบ้าง อัด อย่าดูแคลนนายกฯ มั่นใจทุกฝ่ายช่วยกันจะผ่านวิกฤติโควิดไปได้
เมื่อวันที่ 39 เม.ย. นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลสั่งคุมเข้มเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ามาดูแลสั่งการอย่างใกล้ชิด โดยมีการยกระดับการกระจายวัคซีนเป็นวาระสำคัญเร่งด่วนสูงสุด เป้าหมาย ดังนี้ 1.ผลักดันให้มีการจัดหาวัคซีนให้ได้เพิ่มมากขึ้นในทุกวิถีทาง โดยมีเป้าหมาย 10-15 ล้านโดสต่อเดือน จากวัคซีนที่มีความหลากหลายในปัจจุบันโดยรัฐและเอกชนจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด 2.มีโครงสร้างที่จัดกลุ่ม แบ่งงาน ผสมผสานการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้ชัดเจน โดยต้องให้มีการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง ผลักดันแนวหน้าในการฉีดวัคซีนให้เป็นเชิงรุก
นายธนกร กล่าวอีกว่า 3.จัดให้มีศูนย์ฉีดวัคซีนทางเลือก โดยใช้สถานที่ที่เหมาะสม เช่น ศูนย์ประชุมฯ ศูนย์กีฬา โรงแรม โรงพยายบาลเอกชน เพื่อลดภารกิจของโรงพยาบาลหลัก และสาธารณสุข ที่ต้องรองรับ ดูแลผู้ป่วยเป็นหลัก โดยศูนย์ฉีดวัคซีนฯ จะดึงการมีส่วนร่วมในการฉีดวัคซีนทางเลือกในกลุ่มที่มีศักยภาพเพิ่มเติมจากของภาครัฐ 4.เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการฉีดให้ได้ 300,000 โดสต่อวัน หรือมากกว่า และเป้าหมายฉีดให้ประชาชน 50ล้านคนภายในสิ้นปีนี้หรือเร็วกว่า นอกจากนี้ ยังสั่งการให้มีการปรับปรุงการคัดกรอง และระบบการเข้ารับการรักษาพยาบาลให้มีช่องทาง และการขนส่งเคลื่อนย้ายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าหากทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกันเราจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน
นายธนกร กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบอกให้พล.อ.ประยุทธ์รีบหาวัคซีนแล้วค่อยลาออก จะได้มีความดีให้คนจดจำบ้างนั้น ถามจริงๆ ว่านายปลอดประสพยังสะกดคำว่าความดีถูกหรือไม่ จริงๆ แล้วนายปลอดประสพก็เพิ่งจะออกจากคุกมา ในความผิดมาตรา157 ควรมีจิตสำนึกของความดีให้มากกว่านี้ และไม่ควรออกมาดูแคลนพล.อ.ประยุทธ์ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ทำความดีให้กับประเทศชาติและประชาชนมากมาย การแก้ปัญหาโควิด-19ก็มีการสั่งการแก้ไขอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปหมดแล้ว ดังนั้น ทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน ไม่ใช่ออกมาขับไล่ท่านนายกฯ เช้า กลางวัน เย็น ตนเข้าใจว่านายปลอดประสพยังคงมีความรักความผูกพันกับพรรคเพื่อไทยอยู่ แต่ควรแยกแยะผิดชอบชั่วดีบ้าง ตนไม่อยากไปก้าวล่วงผู้อาวุโสอย่างนายปลอดประสพ แต่ตนมองว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาของการเมือง แต่เป็นเวลาที่จะต้องช่วยเหลือบ้านเมือง ขอให้เข้าใจด้วย