รมว.ยุติธรรม โต้กลุ่ม OctDem ยันราชทัณฑ์ไม่ได้คุกคามแกนนำม็อบดูแลอย่างดีตามหลักสากล ย้ำไม่เคยปิดกั้นเรื่องขอพบทนายส่วนตัวเพื่อสู้คดี สืบเนื่องจาก วันที่ 28 เมษายน 2564 กลุ่มคนเดือนตุลา OctDem เผยแพร่จดหมายเปิดผนึก เรื่อง “การคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาและจำเลย” เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานราชทัณฑ์ มีคำสั่งไปยังผู้รับผิดชอบให้ดูแลปกป้องผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาทางการเมือง ที่ถูกจองจำให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิต หลังมีการตรวจหาเชื้อโควิดผู้ต้องหายามวิกาล รวมถึงเปิดโอกาสให้ได้ติดต่อหารือกับทนายความเพื่อต่อสู้คดีด้วย นั้น นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจหลังได้รับทราบรายงานดังกล่าว พร้อมยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน โดยคำนึงถึงสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 28 ภายใต้ข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ สำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (SMR) ข้อกำหนดแมนเดลา 2558 (MR) ข้อกำหนดกรุงเทพ (BR) และกฎเรือนจำของสหภาพยุโรป (EPR) และพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 โดยตั้งแต่วันรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ จะต้องทำการตรวจสุขภาพร่างกาย ดูแลสุขภาพอนามัยและสุขาภิบาล การบริการทันตกรรม รวมถึงการออกกำลังกายให้กับผู้ต้องขังทุกราย แต่เมื่อโควิดมีการระบาดกรมราชทัณฑ์จึงได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อในการกักตัวและตรวจหาเชื้อโดยวิธีวัดอุณหภูมิ พร้อมตรวจโควิดแบบแหย่จมูก (Swab) 14 วัน ก่อนปล่อยเข้าสู่แดนแรกรับ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งในประเด็นดังกล่าวศาลได้ไต่สวนและมีคำสั่งไปแล้ว นายวัลลภ เปิดเผยอีกว่า ส่วนกรณีการติดต่อหารือกับทนายความเพื่อปรึกษาเรื่องคดี นั้น รมว.ยุติธรรม ยืนยันว่ากรมราชทัณฑ์ไม่เคยปิดกั้นผู้ต้องขังหรือจำเลย โดยดำเนินการตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 มาตรา 61 ให้เรือนจำจัดสถานที่ให้ผู้ต้องขังได้พบและปรึกษากับทนายความ หรือผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว ได้ตามที่กำหนดในระเบียบกรมราชทัณฑ์ ข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำ สำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง SMR 93 และข้อกำหนดแมนเดลา ข้อ 61 เช่นเดียวกับกรณีของนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง ที่มีทนายความสิทธิมนุษยชนเข้าเยี่ยมเยียนเป็นการส่วนตัวภายใต้มาตรการควบคุมป้องกันโรคติดต่ออย่างเป็นประจำ