กรมควบคุมโรค ร่วมกับมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดสัมมนาระดับชาติเครือข่ายชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย ครั้งที่ 1 ระดมจิตอาสาร่วมทำความดีและช่วยเหลือสังคม เผยตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน จัดตั้งและขยายชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัยแล้ว 298 ชมรม รวมกว่า 3 หมื่นคน วันที่ 26 ก.ย. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการฯ กรุงเทพฯ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ รามสูต ประธานมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และนายแพทย์ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมเปิดการสัมมนาระดับชาติเครือข่ายชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย ครั้งที่ 1 ปี 2560 ในหัวข้อเรื่อง “จิตอาสาราชประชาสมาสัย และจิตอาสาประชารัฐ พลังเพื่อไทยยั่งยืน” พร้อมพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ให้การสนับสนุนชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัยและโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้บริหาร นักพัฒนาชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัยดีเด่นระดับชาติ จำนวน 12 ท่าน ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ กล่าวว่า การสัมมนาระดับชาติเครือข่ายชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก ซึ่งมีทั้งการบรรยาย อภิปราย การจัดนิทรรศการพระราชกรณียกิจความสำเร็จของโครงการควบคุมโรคเรื้อนตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และความก้าวหน้าของโครงการจัดตั้งและขยายชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัยตามแนวพระราชดำริ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงพระราชทานในปีพุทธศักราช 2554 เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิราชประชาสมาสัยฯ หลังจากกำจัดโรคเรื้อนได้สำเร็จอย่างยั่งยืนสมดังพระราชปณิธานแล้ว ได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและช่วยแก้ปัญหาทางสุขภาพและสังคมที่ยังเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้จัดตั้งและขยายชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัยในปี 2557-2560 ทั้งสิ้น 298 ชมรม ใน 27 จังหวัดของทั้ง 4 ภาค โดยมีจิตอาสาราชประชาสมาสัย รวมทั้งสิ้น 33,108 คน โดยจิตอาสาร่วมกันทำความดีเพื่อพ่อแห่งแผ่นดินและแผ่นดินเกิด โดยการพัฒนาพระราชทฤษฎีพระราชอุดมการณ์ และพระราชปรัชญามาประยุกต์ปฏิบัติ ดังนี้ 1.พระราชทฤษฎีราชประชาสมาสัย (กษัตริย์และประชาชนย่อมพึ่งพาช่วยเหลือกันและกัน)2.พระราชอุดมการณ์ปิดทองหลังพระ (การทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน)และ 3.พระราชปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และได้ขยายกลุ่มเป้าหมายการปฏิบัติงานของชมรมจิตอาสาราชประชาสมาสัย เพิ่มเป็น 15 กลุ่มเป้าหมาย เพื่อร่วมสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาและปฏิรูปทั้งด้านคุณธรรม สุขภาพ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคง เป็นต้น นอกจากนี้ ได้เตรียมเร่งรัดขยายชมรมฯ ในปี 2560-2562 ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด และจัดระบบการหลอมรวมชมรมจิตอาสาต่างๆ ภายใต้เครือข่ายจิตอาสาประชารัฐทุกจังหวัด อันจะช่วยให้การดำเนินงานของทุกชมรมมีประสิทธิภาพและบูรณาการร่วมกันอย่างยั่งยืน ต่อไป