วอนช่วยครอบครัวหนูน้อยถูกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง
วอนผู้ใจบุญเมตตาช่วยครอบครัวหนูน้อยวัย 6 ขวบ ที่ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ไม่มีบ้านอยู่ หลังถูกเพลิงไหม้บ้านวอดทั้งหลังเหลือแต่ซาก คาดมาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้( 24 เม.ย. 64 ) นี่คือสภาพบ้านและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเพลิงไหม้วอดไปทั้งหลัง เหลือให้เห็นแต่ซากไม้เก่า และเศษปูน ข้าวของเครื่องใช้ที่นอนหมอนมุ้งรวมถึงของใช้ต่าง ๆ ถูกไฟเผาเป็นเถ้าถ่านเสียหายทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือ ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวนางสาวมะลิ มีต้องปัน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 /5 หมู่ 10 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ซึ่งได้ถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อช่วงเย็นวานนี้ สาเหตุคาดว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร ยังโชคดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านจึงไม่ได้รับบาดเจ็บใดใด แต่ส่งผลให้ทรัพย์สิน ตู้เย็น พัดลม ทีวี สิ่งของ เครื่องนอนภายในบ้านถูกเพลิงเผาวอด แม้แต่ เสื้อผ้า กระเป๋า และชุดนักเรียนของลูกก็ถูกเผาวอด ซึ่งเด็ก ๆ เตรียมจะเปิดเรียนเดือนหน้าที่จะถึงนี้
นางสาวมะลิ มีต้องปัน เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเพลิงไหม้ ออกไปนอกบ้านกับลูกชาย ยังโชคดีที่เด็ก ๆ ตามออกไปด้วย เพราะปกติจะชอบเล่นอยู่กับบ้าน อีกทั้งช่วงนี้ไม่มีงานทำ เพราะเกิดปัญหาโรคระบาดโควิด 19 แต่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่านม ค่าแพมเพิส ของลูกคนเล็ก โดยครอบครัวมีลูก 2 คน คนโตอายุ 6 ขวบ ชื่อ ด.ช. รัตนพล มั่นคง ( นามสกุลของพ่อเด็ก ) คนเล็กเป็นลูกสาว ชื่อ ด.ญ.พรธีรา มั่นคง อายุ 4 ขวบหลังเกิดเหตุได้นำลูกไปฝากเลี้ยงไว้กับย่าชั่วคราวก่อน ช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ไม่มีใครรู้ ทำให้ไฟลุกไหม้ข้าวของใช้ไปทั้งหมด
ขณะนี้ยังคิดอะไรไม่ออก สามีทำอาชีพดูแลซุ้มไก่ชน ส่วนลูกชายวัย 6 ขวบ กำลังจะขึ้นชั้น ป. 1 ส่วนคนเล็กวัย 4 ก็จะขึ้นชั้นอนุบาล 1 แล้ว ตอนนี้มีแค่ญาติ ๆสนิทมาสอบถามความเป็นอยู่ และได้ให้เงินมาช่วยเหลือเล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอที่จะนำไปสร้างบ้านใหม่ จึงอยากวอนให้ผู้ใจบุญมาช่วยเรื่องอุปกรณ์การสร้างบ้าน เพราะถูกไฟไหม้หมดเหลือแต่เสา และห้องที่สร้างจากอิฐบล็อก นอกนั้นถูกเพลิงไหม้ดำเกรียมเสียหายใช้การไม่ได้
ด.ช.รัตนพล มั่นคง อายุ 6 ขวบ ใส่เสื้อสีแดงวิ่งเล่นอยู่ในพื้นที่บ้านของตัวเองที่ถูกไฟไหม้ได้พูดจาอย่างไร้เดียงสาแววตาออกเศร้าว่า ตอนนี้หนูนอนบ้านยาย บ้านหนูโดนไฟไหม้ไม่เหลืออะไรเลย หนูเรียนอยู่โรงเรียนวัดศรัทธาราษฎร์ หนูอยากมีบ้านใหม่
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามทางครอบครัวทราบว่า ได้มีหน่วยงานท้องถิ่นเข้ามาสำรวจความเสียหายแล้ว เบื้องต้นเตรียมจะให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการเพื่อช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว
สำหรับผู้ใจสนใจอยากช่วยเหลือครอบครัวหนูน้อย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 092-9974134
วันนี้( 24 เม.ย. 64 ) นี่คือสภาพบ้านและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเพลิงไหม้วอดไปทั้งหลัง เหลือให้เห็นแต่ซากไม้เก่า และเศษปูน ข้าวของเครื่องใช้ที่นอนหมอนมุ้งรวมถึงของใช้ต่าง ๆ ถูกไฟเผาเป็นเถ้าถ่านเสียหายทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือ ซึ่งเป็นบ้านของครอบครัวนางสาวมะลิ มีต้องปัน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 /5 หมู่ 10 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ซึ่งได้ถูกเพลิงไหม้ไปเมื่อช่วงเย็นวานนี้ สาเหตุคาดว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร ยังโชคดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านจึงไม่ได้รับบาดเจ็บใดใด แต่ส่งผลให้ทรัพย์สิน ตู้เย็น พัดลม ทีวี สิ่งของ เครื่องนอนภายในบ้านถูกเพลิงเผาวอด แม้แต่ เสื้อผ้า กระเป๋า และชุดนักเรียนของลูกก็ถูกเผาวอด ซึ่งเด็ก ๆ เตรียมจะเปิดเรียนเดือนหน้าที่จะถึงนี้
นางสาวมะลิ มีต้องปัน เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเพลิงไหม้ ออกไปนอกบ้านกับลูกชาย ยังโชคดีที่เด็ก ๆ ตามออกไปด้วย เพราะปกติจะชอบเล่นอยู่กับบ้าน อีกทั้งช่วงนี้ไม่มีงานทำ เพราะเกิดปัญหาโรคระบาดโควิด 19 แต่มีค่าใช้จ่ายเรื่องค่านม ค่าแพมเพิส ของลูกคนเล็ก โดยครอบครัวมีลูก 2 คน คนโตอายุ 6 ขวบ ชื่อ ด.ช. รัตนพล มั่นคง ( นามสกุลของพ่อเด็ก ) คนเล็กเป็นลูกสาว ชื่อ ด.ญ.พรธีรา มั่นคง อายุ 4 ขวบหลังเกิดเหตุได้นำลูกไปฝากเลี้ยงไว้กับย่าชั่วคราวก่อน ช่วงที่เกิดเพลิงไหม้ไม่มีใครรู้ ทำให้ไฟลุกไหม้ข้าวของใช้ไปทั้งหมด
ขณะนี้ยังคิดอะไรไม่ออก สามีทำอาชีพดูแลซุ้มไก่ชน ส่วนลูกชายวัย 6 ขวบ กำลังจะขึ้นชั้น ป. 1 ส่วนคนเล็กวัย 4 ก็จะขึ้นชั้นอนุบาล 1 แล้ว ตอนนี้มีแค่ญาติ ๆสนิทมาสอบถามความเป็นอยู่ และได้ให้เงินมาช่วยเหลือเล็กน้อย แต่ไม่เพียงพอที่จะนำไปสร้างบ้านใหม่ จึงอยากวอนให้ผู้ใจบุญมาช่วยเรื่องอุปกรณ์การสร้างบ้าน เพราะถูกไฟไหม้หมดเหลือแต่เสา และห้องที่สร้างจากอิฐบล็อก นอกนั้นถูกเพลิงไหม้ดำเกรียมเสียหายใช้การไม่ได้
ด.ช.รัตนพล มั่นคง อายุ 6 ขวบ ใส่เสื้อสีแดงวิ่งเล่นอยู่ในพื้นที่บ้านของตัวเองที่ถูกไฟไหม้ได้พูดจาอย่างไร้เดียงสาแววตาออกเศร้าว่า ตอนนี้หนูนอนบ้านยาย บ้านหนูโดนไฟไหม้ไม่เหลืออะไรเลย หนูเรียนอยู่โรงเรียนวัดศรัทธาราษฎร์ หนูอยากมีบ้านใหม่
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามทางครอบครัวทราบว่า ได้มีหน่วยงานท้องถิ่นเข้ามาสำรวจความเสียหายแล้ว เบื้องต้นเตรียมจะให้ความช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ของทางราชการ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนดำเนินการเพื่อช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว
สำหรับผู้ใจสนใจอยากช่วยเหลือครอบครัวหนูน้อย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 092-9974134