“พรรคกล้า” ออกแถลงการณ์ 3 ข้อเสนอถึงรัฐบาลไทย แสดงท่าทีในเวทีสุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษ “ชี้ความรุนแรงในเมียนมาร์ กระทบชายแดนไทย – ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมิติความมั่นคง-การจัดการโควิด19” , “ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในเมียนมาร์ เสี่ยงต่างชาติแทรกแซง” , “เสนอ รัฐบาลทหารเมียนมาร์ – รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ใช้อาเซียนเป็นตัวกลาง หาทางออกด้วยวิธีทางการเมือง" พรรคกล้า ออกแถลงการณ์ข้อเสนอถึง “รัฐบาลไทย” ต่อ “การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษ” ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 เมษายนนี้ ที่สำนักเลขาธิการอาเซียน กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยมีเนื้อหาว่าการรัฐประหารในประเทศเมียนมาร์ (1 ก.พ.2564) มาถึงวันนี้ผ่านมาเป็นระยะเวลา 2 เดือนเศษ เกิดเหตุการใช้ความรุนแรง และมีแนวโน้มที่จะบานปลายไปสู่การสู้รบระหว่างรัฐบาลทหารกับกลุ่มชาติพันธุ์ที่รวมตัวกันเป็นรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ แม้เหตุที่เกิดขึ้นจะเป็นการเมืองภายในประเทศเมียนมาร์ แต่ด้วยประเทศไทยมีเขตแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ถึง 2,401 กิโลเมตร มีจุดผ่านแดน 16 จุด ย่อมได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายคนตามแนวชายแดน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ รัฐบาลไทยจึงควรต้องแสดงท่าทีที่ชัดเจนในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนนัดพิเศษที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 เมษายนนี้ 1.) รัฐบาลไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ต้องชี้ให้เห็นว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมาร์ ไม่ได้เป็นปัญหาความมั่นคงภายในประเทศเท่านั้น แต่จะส่งผลให้เกิดการอพยพย้ายถิ่น หนีร้อนมาพึ่งเย็นประเทศเพื่อนบ้าน เกิดเป็นภาระและความเสี่ยง ทั้งด้านความมั่นคงและการจัดการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยรวมถึงทุกประเทศในอาเซียนกำลังเผชิญอยู่ และไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 2.) รัฐบาลไทยควรแสดงท่าทีอย่างแข็งขัน ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อประชาชน และชี้ให้เห็นว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาหรือการรักษาความมั่นคงภายใน รังแต่จะทำให้เกิดความไม่สงบมากขึ้น นำไปสู่การสู้รบกลางเมือง หากสถานการณ์รุนแรงขึ้น เสี่ยงต่อการแทรกแซงจากต่างชาติ อันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงโดยรวมในภูมิภาคอาเซียนไปด้วย 3.) เสนอให้ รัฐบาลทหารเมียนมาร์ กับ กลุ่มชาติพันธุ์ที่รวมตัวกันในนามรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ใช้วิธีทางการเมือง หารือเพื่อหาทางออกร่วมกันโดยสันติ โดย ASEAN ต้องพร้อมทำหน้าที่เป็นกรรมการตัวกลาง คาดหวังว่ารัฐบาลไทย จะแสดงท่าทีชัดเจน แสดงบทบาทความเป็นผู้นำในภูมิภาค กำหนดท่าทีร่วมกันกับผู้นำชาติอาเซียนอื่นๆ เพื่อนำมาสู่การสร้างสันติสุขกลับมาสู่ประเทศเมียนมาร์ และรักษาความมั่นคงของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน