ระบุจากการศึกษาวิจัยจากการใช้ในการระบาดรอบ 2 ปลายปีที่ผ่านมาในผู้ป่วยอาการน้อยไม่มีปอดอักเสบ 309 คน ได้ผลดีถึง 306 คน ยกเว้นแค่ 3 คนที่อาการแย่ และเมื่อเทียบกับอีกกว่า 500 คนที่ไม่ได้ใช้ พบอาการแย่ลงมากถึงกว่า 70 คน ถือเป็นทางเลือกรักษาผู้ป่วยระยะเริ่มต้น-อาการไม่รุนแรง ตกหัวละ 180 บ.เท่านั้น พร้อมเร่งศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 22 เม.ย.64 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข พร้อมนพ.เกียรติภูมิ  วงศ์รจิต  ปลัดก.สาธารณสุข พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวและมอบยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เพื่อนำไปใช้สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ระบาดทุกจังหวัด นายอนุทินกล่าวว่า รัฐบาล ได้บูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อควบคุมสถานการณ์โรคโควิด19 ระลอกเดือนเมษายน เร่งรัดฉีดวัคซีนในบุคลากรและกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มเตียงในโรงพยาบาล/ โรงพยาบาลสนาม จัดหายาฟาวิพิราเวียร์เพิ่มอีก 2 ล้านเม็ด และมอบให้กรมการแพทย์แผนไทยนำ “สมุนไพรฟ้าทะลายโจร” มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ 20 มิลลิกรัมต่อแคปซูล 6 แสนแคปซูลส่งให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ พร้อมใช้เป็นทางเลือกรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการเล็กน้อยร่วมกับการรักษาการแพทย์แผนปัจจุบัน ได้ไม่ต่ำกว่า 15,000 ราย ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า มีผลยับยั้งเชื้อไวรัส และมีฤทธิ์ต้านการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส เมื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มีระดับความรุนแรงน้อย (ไม่มีภาวะปอดอักเสบ) ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นและแทบไม่พบผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต  ปลัดก.สาธารณสุข กล่าวว่า “สมุนไพร” เป็นอีกทางเลือกที่ได้รับการยอมรับและพร้อมนำไปช่วยรักษาควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งได้ให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ร่วมกับภาคีเครือข่ายศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อผู้ป่วยโรคโควิด 19 หลังจากการวิจัยในหลอดทดลอง พบมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ และต่อมาจึงร่วมกับโรงพยาบาลสมุทรปราการขยายผลต่อยอดงานวิจัยในผู้ป่วยเพื่อกำหนดขนาดการใช้ และความปลอดภัย ผลการศึกษาเบื้องต้นในผู้ป่วยที่รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ขนาด 180 มิลลิกรัม/วัน ผู้ป่วยทุกราย มีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ของการได้รับสารสกัด และทุกรายไม่มีอาการข้างเคียง มีโอกาสที่จะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล และการนำเข้ายาจากต่างประเทศได้ ด้านพญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯกล่าวว่า ในช่วงการแพร่ระบาดระลอกล่าสุดของโรคไวรัสโควิด-19 ในช่วงเดือนธ.ค.63 กรมการแพทย์แผนไทยฯ ได้ร่วมกับ 9 โรงพยาบาลของรัฐ สังกัดก.สาธารณสุขใช้ยาฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรงน้อย 309 คน พบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่คือ 306 รายมีอาการดีขึ้นชัดเจนในห้าวันจนหายดีและไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง โดยมีเพียง 3 รายหรือ 0.97% ที่อาการแย่ลงและเกิดภาวะปอดบวม ขณะที่ผู้ป่วยอีก 526 ราย ที่ไม่ได้รับฟ้าทลายโจรมีอาการแย่ลงถึง 77 ราย คิดเป็น 14.64% ซึ่งความแตกต่างนี้สะท้อนถึงแนวโน้มที่ฟ้าทะลายโจรมีโอกาสเป็นทางเลือกที่ดีมากในการรักษาผู้ป่วยโควิดในระยะเริ่มต้นและอาการไม่รุนแรง ทั้งนี้ ยังมีผลการศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ ที่มีผลสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับการศึกษานี้ด้วย นอกจากนี้ ฟ้าทะลายโจรยังเป็นสมุนไพรที่ปลูกง่ายมีราคาถูก คือประมาณ 180 บาทเท่านั้นสำหรับการรักษาผู้ป่วยหนึ่งราย  ทั้งนี้ ขณะนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยังร่วมกับโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม ศึกษาวิจัยทางคลินิกเพิ่มเติม เพื่อยืนยันประสิทธิภาพสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการร่วมรักษาโรคโควิด19 โดยได้ออกแบบการศึกษาวิจัยเป็นแบบสุ่ม และมีกลุ่มเปรียบเทียบ ซึ่งจะยิ่งเพิ่มระดับความน่าเชื่อถือให้มากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ อยู่ในระหว่างรวบรวมข้อมูล และส่งต่อตัวอย่างของอาสาสมัครทั้งหมดให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพาะเลี้ยงเชื้อ รวมถึงวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย และเผยแพร่ความก้าวหน้าของผลวิจัยต่อไป สำหรับข้อแนะนำวิธีใช้สมุนไพรฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยโควิด 19 ที่อาการไม่รุนแรง ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสำคัญ ให้ใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ 60 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า กลางวัน และเย็น (รวม 180 มิลลิกรัมต่อวัน) ติดต่อกันนาน 5 วัน ข้อควรระวัง คือ ผู้ที่มีอาการแพ้ฟ้าทะลายโจร หญิงตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และควรระวังการใช้ยานี้ร่วมกับยาวาร์ฟาริน แอสไพริน โคลพิโดเกรล ยาลดความดันโลหิต และไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจมีอาการชาตามมือตามเท้า และมีปัญหากับตับ ไต ได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ฟ้าทะลายโจร สอบถามได้ที่ สายด่วนฟ้าทะลายโจร โทร.065-504-5678 หรือ ช่องทาง www.facebook.com/dtam.moph และ Line @DTAM