'น้องแนน' ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาจำคุกฟรี 21 เดือนทนายยื่นขอรับเงินเยียวยาที่ขาดหายไป 100 วันเพิ่มอีก จนท.ยอมรับข้อผิดพลาดคำนวณผิด เนื่องจากเป็นกรณีเครสแรกของประเทศ เลื่อนรับเงินอีกทีอาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคมนี้
จากกรณี น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 25 ปี หลังศาลฎีกา มีคำพิพากษาตัดสิน น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ในคดียาเสพติด (ยาบ้า) ถึงแม้จะได้รับอิสรภาพแล้วก็ตาม สภาพจิตยังคงอยู่ในอาการย่ำแย่ เนื่องจากต้องถูกคุมขังในเรือนจำเป็นเวลานาน โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ออกจากเรือนจำวันไหน ซึ่งครอบครัวและญาติพี่น้องบอกว่า น.ส.สุพรรณษา มีสภาพจิตใจที่เปลี่ยนไปมาก หลังได้รับอิสรภาพกลับมา พบว่าอยู่ในอาการซึมเศร้า ไม่ค่อยพูดค่อยจา ต่างจากเมื่อก่อนที่เป็นคนร่าเริง ซึ่งทางครอบครัวอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลสภาพจิตใจและเยียวยาในสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับผู้บริสุทธิ์ด้วย
คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2561 น.ส.สุพรรณษา ซ้อนรถจักรยานยนต์กับแฟนหนุ่ม คือ นายศุภกิจ นิยมสวน ในตอนนั้นอายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 ม.4 ต.สำโรง อ.เมืองจ.สุรินทร์ ที่คบกันได้ไม่กี่เดือน เพื่อไปทำธุระ แต่แฟนหนุ่มกลับพาไปส่งยาบ้า 41 เม็ดให้กับสายตำรวจที่ล่อซื้อ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิด ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ซึ่งแฟนหนุ่มที่เป็นผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ จึงถูกศาลตัดสินให้จำคุก 4 ปี 6 เดือนและปฏิเสธว่า น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร นั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ครอบครัวไม่มีเงินประกันตัว จนถูกคุมขังในเรือนจำกลางสุรินทร์ฟรี กว่า 8 เดือน ระหว่างสู้คดี โดยมีนายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความ อาสาเข้าไปช่วยเหลือทางกฎหมายฟรี เนื่องจากครอบครัวน.ส.สุพรรณษาฯ มีฐานะยากจน จนศาลชั้นต้นตัดสินและได้รับอิสรภาพกลับคืนมา และต่อมาอัยการได้ยืนอุทธรณ์ฟ้องต่อ โดยศาลอุทรณ์ตัดสินมีความผิด สั่งลงโทษจำคุก 5 ปี 12 เดือน และปรับเงิน 5.6 แสนบาท ถ้าไม่มีเงินให้กักขังแทนเงินค่าปรับ
ต่อมานายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา ได้ทำเรื่องขออนุญาติฎีกา และศาลสุรินทร์ได้รับคำร้องส่งให้ศาลฎีกาและศาลฎีการับไว้พิจารณาคดีนี้ โดยระหว่างที่ศาลฎีการับเรื่องน.ส.สุพรรณษาฯ ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา เนื่องจากไม่มีเงินประกันตัว ระหว่างที่สู้ในชั้นฎีกา ท้ายสุดศาลฎีกามีดุลยพินิจตามพยานหลักฐานอ่านคำพิพากษาตัดสินยกฟ้อง ว่าจำเลยไม่มีส่วนร่วมในการกระทำผิด เมื่อวันที่ 28 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งน.ส.สุพรรณษาฯ ต้องติดคุกระหว่างต่อสู้ในชั้นฎีกา 13 เดือน รวม 2 ครั้งเป็นเวลา 21 เดือน
ทั้งนี้ นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความอาสา พร้อมด้วยนางพัชรพร บำเพ็ญเพียร อายุ 53 ปี ผู้เป็นแม่ของ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร อายุ 25 ปี ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคดีนี้ ได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอเงินเยี่ยวยาตาม พรบ.ช่วยเหลือ ผู้ต้องหาของกระทรวงยุติธรรม โดยมีนายโยธิน บัวแก้ว ผอ.ยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดเจ้าหน้าที่เพื่อรับเรื่องเพื่อให้การช่วยเหลือเยี่ยวยาโดยจะนำเรื่องคำร้องขอรับการเยี่ยวยาช่วยเหลือส่งให้คณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
และต่อมา คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ลงวันที่ 25 มี.ค.64 พิจารณา จ่ายค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายให้แก่ น.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร แยกเป็นค่าทดแทนการถูกคุม เป็นจำนวนเงิน 283,500 บาท และค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ฯ จำนวน 188,745 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 472,245 บาท พิจารณาตามความในมาตรา 8 มาตรา 15 และมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 30 วรรคหนึ่ง และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และอัตราในการจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2559 ข้อ 6 (3) โดยเงินทดแทนจะจ่ายเข้าบัญชีภายในต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น แต่ปรากฏว่า จนเลยกลางเดือนเมษายน 2564 ยังไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.สุพรรษา แต่อย่างใด
ล่าสุด-วันนี้ (21 เม.ย.64)เวลา 10.30 น.ที่อาคารบูรณาการยุติธรรมจังหวัดสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความ พร้อมด้วยน.ส.สุพรรณษา บำเพ็ญเพียร (หรือน้องแนน) อายุ 25 ปี และนางพัชรพร บำเพ็ญเพียร อายุ 53 ปี ผู้เป็นแม่ของ น.ส.สุพรรณษา ได้เดินทางมาเพื่อร้องเพิ่มเติมตามที่กองทุนยุติธรรมยังจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้เสียหายยังไม่ครบ ยังขาดอีกจำนวน 100 วัน เป็นค่าตอบแทน จากกองทุนยุติธรรมจำนวน 86 วันและค่าตอบแทนจากกองทุนพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาจำนวน 14 วัน รวมเป็น 100 วัน เป็นเงินจำนวน 81, 500 บาท เมื่อรวมกับครั้งก่อนที่จะต้องจ่ายต้องให้กับน้องแนน คือจำนวน 640,000 บาทบวกกับอีก 81, 500 บาท โดยยุติธรรมจังหวัดจะจ่ายให้ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมนี้ แบ่งจ่ายให้งวดแรกให้ก่อน 640,000 บาท ส่วนอีก 100 วัน เป็นเงินจำนวน 81, 500 บาท จะจ่ายอีกครั้งตอนหลัง ซึ่งตรงนี้เจ้าหน้าที่ยอมรับว่า เป็นเรื่องของความบกพร่องเพราะว่าเป็นคดีแรก ก็เลยไม่เข้าใจเท่าที่ควร
นายคำสิงห์ ชอบมี ทนายความน้องแนน กล่าวว่า คดีน้องแนนครั้งแรกมาของรับเงินเยียวยา พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ปรากฏว่าคณะกรรมาการวินิจฉัยให้ 567 วัน ซึ่งตนมาดูแล้วว่ามันยังไม่ครบ เพราะว่ายังขาดอีก 100 วัน ก็คือตั้งแต่ชั้นจับกุมแล้วก็ชั้นฝากขังระหว่างการสอบสวน วันนี้ก็เลยมาโต้แย้งว่าที่คำนวณให้ 567 วันนั้น ยังขาดอีก 100 วัน ก็เลยพาน้องแนนมาขอรับเงินเยียวยาเพิ่มอีก 100 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาก็ยอมรับว่า เป็นเรื่องของความบกพร่องเพราะว่าเป็นคดีแรก ก็เลยไม่เข้าใจเท่าที่ควร ก็เลยนัดกันมายื่นใหม่พร้อมกับเอกสารชุดใหม่ เพื่อให้น้องแนนได้รับสิทธิประโยชน์เต็มที่ ตั้งแต่ถูกจับกุมมา โดยขาดตั้งแต่ช่วงจับกุมจนถึงก่อนวันที่อัยการยื่นฟ้องต่อศาล ซึ่งน้องแนน ระหว่างถูกจับกุมมาก็อยู่ในเรือนจำตลอด ตรงนี้เขาก็สมควรที่จะได้รับเงินเยียวยาด้วย เพียงแต่ว่าครั้งแรกเกิดข้อบกพร่องไม่ได้คิดเงินจำนวน 100 วันนี้เข้าไปด้วย เท่าที่ตนคำนวณคร่าวๆก็ประมาณ 81,500 บาท (แปดหมื่นหนึ่งพันห้าร้อยบาท)ที่ขาดไป รอบแรกคำนวณจ่ายสี่แสนหกหมื่นกว่าบาท แต่ว่ารัฐมนตรีว่าจะจ่ายให้ไม่เกินวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับเงิน เพราะว่าเจ้าหน้าที่การเงินส่วนกลางโทรมาแจ้งว่าจะจ่ายให้สัปดาห์แรกของต้นเดือนพฤษภาคมปีนี้เท่ากับว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินดังกล่าว ส่วนเงินที่จะได้รับคงจะเป็นรอบแรกก่อน คือสี่แสนหกหมื่นกว่าบาท ส่วน 81,500 บาท คงต้องจ่ายเป็นงวดหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับดำเนินเรื่องแล้วว่า จะลงไปหาที่บ้านน้องแนนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะมาประกอบสำนวนขอรับเงินใน 100 วันนี้ ส่วนปัญหาอย่างอื่นก็ไม่มีแล้ว ก็รอเพียงรับเงินเยียวยาเท่านั้น