ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์วันนี้(21 เม.ย.)ดัชนีภาคเช้าปิดที่ระดับ 1,579.93 จุด ลดลง 0.11 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขายราว 42,282 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,583.88 จุด และระดับต่ำสุด 1,575.56 จุด นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ถึงพักฐาน ยังดูดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ปรับตัวลงแรงเฉลี่ยราว 0.5-0.6% จากแรงกดดันสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และยังขาดปัจจัยขับเคลื่อน ส่วนบ้านเราอยู่ในช่วงรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งกลุ่มแบงก์ก็ออกมาดีกว่าคาดจากการตั้งสำรองฯลดลงและรายได้ค่าธรรมเนียมดีขึ้น ทั้งนี้แรงขับเคลื่อนตลาดบ้านเรามีจำกัด และ Fund flow ไม่ค่อยไหลเข้ามาในตลาดกลุ่ม TIP แม้ว่าจะมีเงินไหลเข้าในตลาดแถบเอเชียเหนืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลาดบ้านเราก็ยังมีปัจจัยถ่วงจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ upside ตลาดมีจำกัด และจากวันนี้จนถึงวันที่ 28 เม.ย.จะเป็นช่วง 7-14 วันหลังสงกรานต์ต้องจับตาตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดจะกระจายตัวออกไปแค่ไหน และการเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งคนไทยยังได้รับการฉีดวัคซีนค่อนข้างน้อยนอกจากนี้ให้ติดตามการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยและตลาดทุน ซึ่งทางสถาบันมูดี้ฯ มองไทยมีความเสี่ยงในการฟื้นตัวเศรษฐกิจอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเช้ามีการแกว่งไซด์เวย์ แต่แข็งแรงกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ติดลบราว 0.5-1% ตามตลาดสหรัฐและยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่วนตลาดบ้านเราได้แรงหนุนจากผลประกอบการกลุ่มแบงก์แข็งแกร่ง และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุน อย่าง GULF, INTUCH และ ADVANC ที่ทำให้ดัชนีสามารถประคองตัวได้ ส่วนกรณีที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับ GDP ลดลงมาที่ 1.8% จากเดิม 2.6% ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก โดยมองว่าการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น พร้อมแนะนำให้สะสมหุ้นธนาคารพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็น KBANK, SCB และ KKP เนื่องจากผลกำไรไตรมาส 1/64 ดีกว่าที่คาดไว้และอาจจะดีในไตรมาสถัดไปได้อีก นอกจากนี้ยังแนะนำหุ้น JR และ IIG อีกด้วย แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดฯคงจะแกว่งคล้ายช่วงเช้า ให้แนวต้านที่ 1,580-1,585 จุด ส่วนแนวรับ 1,575-1,570 จุด สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ได้แก่ ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,231.36 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท,DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,680.20 ล้านบาท ปิดที่ 388.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท,KBANK มูลค่าการซื้อขาย1,607.45 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 1.00 บาท,GULFมูลค่าการซื้อขาย1,305.62 ล้านบาท ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท,INTUCH มูลค่าการซื้อขาย1,272.05 ล้านบาท ปิดที่ 63.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท