วันที่ 16 เมษายน 64 ที่ห้องประชุมวิเวก ปางพุฒิพงศ์ อาคาร สช. ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานการแถลงข่าวการทุจริตเงินอุดหนุนในโรงเรียนเอกชน ผ่านระบบ Zoom พร้อมด้วย นายสุภัทร จําปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) เข้าร่วมการแถลงข่าว
ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า พอทราบถึงเรื่องของการทุจริตเงินอุดหนุนในครั้งนี้แล้ว ตนได้นำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการทราบ แล้วหารือกับนายสุภัทร จําปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) ถึงการดำเนินการจัดการในเรื่องนี้ พร้อมทั้งสั่งการให้ไปดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง และตนได้กำชับให้จัดการขั้นเด็ดขาด เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย อีกทั้งเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่โรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ ความรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้หาทางป้องกันการทุจริตซ้ำอีก และได้มอบให้ เลขาธิการ กช. กำกับติดตามการสืบสวนด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด
นายอรรถพล กล่าวถึงรายละเอียดขั้นตอนการทุจริตว่า การทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชน มี 2 รายการโดยพบการทุจริตการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่โรงเรียนเอกชน 2 รายการ ซึ่งมีลักษณะวิธีการคล้ายคลึงกัน คือ แก้ไขจำนวนนักเรียนมากกว่าความเป็นจริง เพื่อให้โอนเงินอุดหนุนให้แก่โรงเรียนเกินกว่าที่ควรได้รับ แล้วให้โรงเรียนโอนคืน/ถอนเงินสดคืน แก่เจ้าหน้าที่เป็นการส่วนตัว มีรายละเอียดดังนี้
รายการแรก การทุจริตเงินอุดหนุนในสำนักงาน สช.จังหวัดนราธิวาส,ประมาณการความเสียหายทั้งหมด 13,635,672.38 บาท,ห้วงเวลาที่ทำการทุจริตที่ตรวจพบ ตุลาคม 2561 – มีนาคม 2563,เบี้ยเสี่ยงภัย จ่ายขาด 18 โรง จ่ายเกิน 2 โรง รวมความเสียหาย เบื้องต้น 1,120,000 บาท โรงเรียนได้รับเงินไม่ครบ 18 โรงเรียน,เงินอุดหนุนพัฒนาประสิทธิภาพฯ (15%) จ่ายเกิน 5 โรง รวมความเสียหายเบื้องต้น 1,081,738.66 บาท โรงเรียนได้รับเงินไม่ครบ 12 โรงเรียน,เงินอุดหนุนรายบุคคล จ่ายเกิน 4 โรง รวมความเสียหายเบื้องต้น 11,433,622.72 บาท โรงเรียนได้รับเงินไม่ครบ 19 โรงเรียนเจ้าหน้าที่ผู้กระทำการทุจริต มีตำแหน่งเป็นพนักงานราชการ และข้าราชการอีก 6 คนที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีส่วนร่วมทุจริตหรือไม่ หรือเป็นเพียงปล่อยปละละเลยในการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้อง
ปลัด ศธ.มอบให้ ผอ.สช.จังหวัดนราธิวาส ลงโทษไล่ออกจากราชการ(เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบซึ่งรับสารภาพแล้ว),สำนักงานปลัด ศธ.พิจารณาดำเนินการทางวินัยข้าราชการผู้เกี่ยวข้องอีก 6 คน เสนอ ปลัด ศธ มอบหมายให้ ผอ.สช.จังหวัดนราธิวาสแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนต่อไป,สช.เสนอ เสนอปลัด ศธ.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดทางละเมิด
ทุจริตรายการที่สอง ทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนใน กทม. ประมาณการความเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 2,611,634.53 บาท เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ทำการทุจริตที่ตรวจพบ ปีการศึกษา 2558 - กุมภาพันธ์ 2564 โดยเจ้าหน้าที่ผู้กระทำการทุจริต เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีอาวุโส (ข้าราชการ สช.) และมีโรงเรียนที่มีส่วนร่วม 7 โรงเรียน ได้แก่
1. โรงเรียนอักษรย่อ ศิ. เขตสาทร โอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 6 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 114,694.65 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 4 ครั้ง จำนวนเงิน 80,200.90 บาท
2. โรงเรียนอักษรย่อ ศุ เขตสาทร พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 3 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,277.49 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 3 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,277.49 บาท
3. โรงเรียนอนุบาลอักษรย่อ ม.เขตยานนาวา พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 6 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 191,907.38 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 6 ครั้ง จำนวนเงิน 191,958.17 บาท
4.โรงเรียนอนุบาลอักษรย่อ มณ. เขตยานนาวา พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,152.50 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวข้าราชการ สช. จำนวน 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,188.50 บาท
5.โรงเรียนอัษรย่อ ซ. พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 38 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 1,346,097.68 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 36 ครั้ง จำนวนเงิน 1,238,510.09 บาท
6.โรงเรียนอักษรย่อ ด.เขตคลองเตย พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 8 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 212,283.93 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 8 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 212,283.93 บาท
7. โรงเรียนอักษรย่อ ว.เขตคลองเตย พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 15 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 648,220.24 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 5 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 269,317 บาท
ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้อง โดย สช.ออกคำสั่งพักราชการ ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เสนอ อ.ก.พ.กระทรวง พิจารณาโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่ผู้ทุจริต เสนอปลัดกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้นิติกร ส๙. ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ทุจริตและผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเสนอปลัดกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาผู้รับผิดทางละเมิดต่อไป
ดร.กนกวรรณ กล่าวว่า พอทราบถึงเรื่องของการทุจริตเงินอุดหนุนในครั้งนี้แล้ว ตนได้นำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการทราบ แล้วหารือกับนายสุภัทร จําปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) ถึงการดำเนินการจัดการในเรื่องนี้ พร้อมทั้งสั่งการให้ไปดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริง และตนได้กำชับให้จัดการขั้นเด็ดขาด เพราะเป็นนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นนโยบายของรัฐบาลด้วย อีกทั้งเรื่องนี้ถือเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่โรงเรียนเอกชนส่วนใหญ่ ความรอบคอบและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้หาทางป้องกันการทุจริตซ้ำอีก และได้มอบให้ เลขาธิการ กช. กำกับติดตามการสืบสวนด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด
นายอรรถพล กล่าวถึงรายละเอียดขั้นตอนการทุจริตว่า การทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชน มี 2 รายการโดยพบการทุจริตการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่โรงเรียนเอกชน 2 รายการ ซึ่งมีลักษณะวิธีการคล้ายคลึงกัน คือ แก้ไขจำนวนนักเรียนมากกว่าความเป็นจริง เพื่อให้โอนเงินอุดหนุนให้แก่โรงเรียนเกินกว่าที่ควรได้รับ แล้วให้โรงเรียนโอนคืน/ถอนเงินสดคืน แก่เจ้าหน้าที่เป็นการส่วนตัว มีรายละเอียดดังนี้
รายการแรก การทุจริตเงินอุดหนุนในสำนักงาน สช.จังหวัดนราธิวาส,ประมาณการความเสียหายทั้งหมด 13,635,672.38 บาท,ห้วงเวลาที่ทำการทุจริตที่ตรวจพบ ตุลาคม 2561 – มีนาคม 2563,เบี้ยเสี่ยงภัย จ่ายขาด 18 โรง จ่ายเกิน 2 โรง รวมความเสียหาย เบื้องต้น 1,120,000 บาท โรงเรียนได้รับเงินไม่ครบ 18 โรงเรียน,เงินอุดหนุนพัฒนาประสิทธิภาพฯ (15%) จ่ายเกิน 5 โรง รวมความเสียหายเบื้องต้น 1,081,738.66 บาท โรงเรียนได้รับเงินไม่ครบ 12 โรงเรียน,เงินอุดหนุนรายบุคคล จ่ายเกิน 4 โรง รวมความเสียหายเบื้องต้น 11,433,622.72 บาท โรงเรียนได้รับเงินไม่ครบ 19 โรงเรียนเจ้าหน้าที่ผู้กระทำการทุจริต มีตำแหน่งเป็นพนักงานราชการ และข้าราชการอีก 6 คนที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีส่วนร่วมทุจริตหรือไม่ หรือเป็นเพียงปล่อยปละละเลยในการปฏิบัติหน้าที่การดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้อง
ปลัด ศธ.มอบให้ ผอ.สช.จังหวัดนราธิวาส ลงโทษไล่ออกจากราชการ(เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบซึ่งรับสารภาพแล้ว),สำนักงานปลัด ศธ.พิจารณาดำเนินการทางวินัยข้าราชการผู้เกี่ยวข้องอีก 6 คน เสนอ ปลัด ศธ มอบหมายให้ ผอ.สช.จังหวัดนราธิวาสแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนต่อไป,สช.เสนอ เสนอปลัด ศธ.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดทางละเมิด
ทุจริตรายการที่สอง ทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนเอกชนใน กทม. ประมาณการความเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 2,611,634.53 บาท เกิดขึ้นในห้วงเวลาที่ทำการทุจริตที่ตรวจพบ ปีการศึกษา 2558 - กุมภาพันธ์ 2564 โดยเจ้าหน้าที่ผู้กระทำการทุจริต เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่ง เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีอาวุโส (ข้าราชการ สช.) และมีโรงเรียนที่มีส่วนร่วม 7 โรงเรียน ได้แก่
1. โรงเรียนอักษรย่อ ศิ. เขตสาทร โอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 6 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 114,694.65 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 4 ครั้ง จำนวนเงิน 80,200.90 บาท
2. โรงเรียนอักษรย่อ ศุ เขตสาทร พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 3 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,277.49 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 3 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,277.49 บาท
3. โรงเรียนอนุบาลอักษรย่อ ม.เขตยานนาวา พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 6 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 191,907.38 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 6 ครั้ง จำนวนเงิน 191,958.17 บาท
4.โรงเรียนอนุบาลอักษรย่อ มณ. เขตยานนาวา พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,152.50 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวข้าราชการ สช. จำนวน 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 49,188.50 บาท
5.โรงเรียนอัษรย่อ ซ. พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 38 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 1,346,097.68 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 36 ครั้ง จำนวนเงิน 1,238,510.09 บาท
6.โรงเรียนอักษรย่อ ด.เขตคลองเตย พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 8 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 212,283.93 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 8 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 212,283.93 บาท
7. โรงเรียนอักษรย่อ ว.เขตคลองเตย พบหลักฐานการโอนคืนเงินอุดหนุนรายบุคคลที่เบิกเกินสิทธิ จำนวน 15 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 648,220.24 บาท โดยพบหลักฐานการโอนคืนเงินเข้าบัญชี ข้าราชการ สช. จำนวน 5 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 269,317 บาท
ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้อง โดย สช.ออกคำสั่งพักราชการ ตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2564 เสนอ อ.ก.พ.กระทรวง พิจารณาโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่ผู้ทุจริต เสนอปลัดกระทรวงศึกษาธิการมอบหมายให้นิติกร ส๙. ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ทุจริตและผู้เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเสนอปลัดกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาผู้รับผิดทางละเมิดต่อไป