วันที่ 16 เมษายน 64 เวลา 06.00 น.พันตำรวจโท อุฤทธิ์ ขรรค์แก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อห้องเย็น เสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทางขาด 2 ท่อน ล้มทับทางเข้า-ออกบ้านเรือนประชาชนริมถนน เหตุเกิดบริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า กทม.ช่วงบริเวณทางโค้งหลักกิโลเมตรที่ 316 + 200 ตรงข้ามปั๊มน้ำมันซัสโก้ บ้านหนองหิน ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตู้ยามบริการประชาชนบ้านหนองหิน ร่วมตรวจสอบเข้าให้ความช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุมีร่องรอยรถเสียหลักไถลลงข้างทาง มีเศษดินกระเด็นกระจัดกระจายเกลื่อนถนน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมทาง (หมวดทางหลวงประจวบ) เข้าดำเนินการทำความสะอาดปัดกวาดถนนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเนื่องจากเป็นทางโค้ง จากการตรวจสอบพบเป็นรถบรรทุกสิบล้อห้องเย็น หมายเลขทะเบียน 81-0692 สุราษฎร์ธานี เสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทางจนขาด 2 ท่อน ตัวรถพลิกตะแคงข้างอยู่บริเวณร่องน้ำข้างทาง ทำให้ตู้ห้องเย็นบรรจุใส่ปลาและเสาไฟฟ้าที่ล้มปิดขวางทับทางเข้า-ออกบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียง จนไม่สามารถเข้า-ออกได้ เนื่องจากมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล จนต้องประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาประจวบเข้าดำเนินการตัดกระแสไฟ ก่อนที่จะให้บริษัทมาดำเนินการถ่ายสินค้า และยกรถออกจากที่เกิดเหตุ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย ประกอบด้วย นางเจนจิรา ทองรอด อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณชายโครงขวา และบุตรสาววัย 8 ขวบ พร้อมบุตรชาย วัย 2 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบฯ
ส่วนสาเหตุ จากการสอบถาม นาย พชพล ปักษิณ อายุ 32 ปี อยู่ ม.5 ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ซึ่งเป็นผู้ขับขี่และไม่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตนเองพร้อมครอบครัวได้ขับรถบรรทุกปลา จำนวน 10.5 ตัน มาจากแพปลาในอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และกำลังจะนำไปส่งที่โรงงานทำปลาร้าในอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างทางถึงจุดเกิดเหตุตนเองรู้สึกง่วงนอนและได้เผลอวูบหลับไปชั่วขณะจนรถเสียหลักตกไหล่ทางชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรง จนรถพลิกคว่ำทำให้ช่วงล่างของรถได้รับความเสียหาย เพลาและล้อหน้ารถทั้งสองข้างหลุด โชคดีที่ภรรยาและลูกได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 10-15 เมษายน 64 สะสมรวม 6 วัน มียอดผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 32 ราย และเกิดอุบัติเหตุ 33 ครั้ง
ที่เกิดเหตุมีร่องรอยรถเสียหลักไถลลงข้างทาง มีเศษดินกระเด็นกระจัดกระจายเกลื่อนถนน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กรมทาง (หมวดทางหลวงประจวบ) เข้าดำเนินการทำความสะอาดปัดกวาดถนนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเนื่องจากเป็นทางโค้ง จากการตรวจสอบพบเป็นรถบรรทุกสิบล้อห้องเย็น หมายเลขทะเบียน 81-0692 สุราษฎร์ธานี เสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทางจนขาด 2 ท่อน ตัวรถพลิกตะแคงข้างอยู่บริเวณร่องน้ำข้างทาง ทำให้ตู้ห้องเย็นบรรจุใส่ปลาและเสาไฟฟ้าที่ล้มปิดขวางทับทางเข้า-ออกบ้านเรือนประชาชนใกล้เคียง จนไม่สามารถเข้า-ออกได้ เนื่องจากมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหล จนต้องประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาประจวบเข้าดำเนินการตัดกระแสไฟ ก่อนที่จะให้บริษัทมาดำเนินการถ่ายสินค้า และยกรถออกจากที่เกิดเหตุ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย ประกอบด้วย นางเจนจิรา ทองรอด อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณชายโครงขวา และบุตรสาววัย 8 ขวบ พร้อมบุตรชาย วัย 2 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบฯ
ส่วนสาเหตุ จากการสอบถาม นาย พชพล ปักษิณ อายุ 32 ปี อยู่ ม.5 ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ซึ่งเป็นผู้ขับขี่และไม่ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตนเองพร้อมครอบครัวได้ขับรถบรรทุกปลา จำนวน 10.5 ตัน มาจากแพปลาในอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และกำลังจะนำไปส่งที่โรงงานทำปลาร้าในอำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างทางถึงจุดเกิดเหตุตนเองรู้สึกง่วงนอนและได้เผลอวูบหลับไปชั่วขณะจนรถเสียหลักตกไหล่ทางชนเข้ากับเสาไฟฟ้าอย่างแรง จนรถพลิกคว่ำทำให้ช่วงล่างของรถได้รับความเสียหาย เพลาและล้อหน้ารถทั้งสองข้างหลุด โชคดีที่ภรรยาและลูกได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 10-15 เมษายน 64 สะสมรวม 6 วัน มียอดผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 32 ราย และเกิดอุบัติเหตุ 33 ครั้ง