อสังหาริมทรัพย์ไทย อยู่ในภาวะชะลอตัวติดต่อกันมาหลายปี ยิ่งเมื่อเจอพิษโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องวัสดุก่อสร้าง อย่างผู้ผลิต Precast ปิดตัวไปหลายราย สวนทางกับการให้ข้อมูลจาก ชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำการผลิตและจำหน่ายผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่สร้างการเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง “ชาคริต ทีปกรสุขเกษม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) CPANEL เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้อง 3 คนของครอบครัวทีปกรสุขเกษม ซึ่งถูกปลูกฝังและเลี้ยงดูมาแบบคนจีนโบราณ ด้วยความที่คุณพ่อ คุณแม่ เติบโตมาด้วยความลำบาก จึงได้สอนลูกๆให้ประหยัดและขยันอดทน ในส่วนของการทำธุรกิจ คุณพ่อสอนว่า ไม่ว่าจะอยู่ในธุรกิจไหน การได้เป็นเจ้าแรกของธุรกิจนั้น จะทำให้เราอยู่ในจุดที่ได้เปรียบเสมอ ไม่เพียงแค่นั้น เรายังต้องตั้งเป้าหมายให้สูงและสามารถต่อยอดธุรกิจได้ ทำให้จากธุรกิจครอบครัวเล็กๆเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยเมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการเงินและการธนาคารจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชาคริต เลือกที่จะออกไปแสวงหาประสบการณ์ด้านการเงินให้กับตัวเองในหลากหลายรูปแบบ โดยในช่วงเริ่มต้นการทำงานได้ร่วมงานกับหน่วยงานด้านการเงินหลายแห่ง อาทิ ธนาคารดีบีเอสไทยธนุ องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ซึ่งในระหว่างนั้นต้องช่วยดูแลธุรกิจของที่บ้านบางส่วน ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เรียนมายังไม่เพียงพอ จึงได้ผันชีวิตตัวเองไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและคว้าปริญญาโทกลับมาสองสาขา ทั้งด้านการบริหารการจัดการการผลิต และการบริหารระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (Operation Management & MIS) ชาคริตเล่าว่า การไปเรียนต่อต่างประเทศทำให้มุมมองด้านการทำงานเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โดยเชื่อว่าการทำธุรกิจและการบริหารที่จะเกิดผลสำเร็จได้ ต้องผนวกทั้งวิธีการคิด การปฏิบัติอย่างถูกต้อง และการควบคุมที่มีประสิทธิภาพเข้าด้วยกัน การขายสินค้าใดๆก็แล้วแต่ต้องตอบโจทย์ แก้ปัญหาของลูกค้าในราคาที่ลูกค้าสามารถจ่ายได้ การดำเนินงานต่างๆจึงจะเกิดเป็นผลสำเร็จ ซึ่งเขาได้นำแนวทางเหล่านี้ พร้อมกับสิ่งที่ได้เรียนมา เข้ามาประยุกต์ใช้กับการดำเนินงานหลายด้านในบริษัท และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการจัดการที่ดีขึ้นในแผนกต่างๆเป็นอย่างมาก ด้วยแนวความคิดและประสบการณ์การทำงานที่สั่งสมมา ทำให้มาตรฐานและการทำงานของชาคริต คือ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและทำสิ่งที่ดีที่สุด เขาจึง เปิดบริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete Wall and Panel) ภายใต้เครื่องหมายการค้า “CPanel” เพื่อตอบโจทย์ให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้างยุคใหม่ และสะท้อนความเป็นตัวตนของชาคริตได้มากที่สุด จากที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานานกว่า 10 ปี และศึกษางานด้านเทคโนโลยีการก่อสร้างไปด้วย จึงรู้ว่าในอนาคตต้องมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมก่อสร้างใหม่ๆเข้ามาแทนแรงงานคนแน่นอน เพราะนับวันแรงงานยิ่งหายาก และค่าแรงยิ่งเพิ่มขึ้น จึงได้หันมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังนานกว่า 2 ปี จนกระทั่งได้ข้อสรุปที่จะผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูป โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรการผลิตระบบ Fully Automatic ซึ่งมีความทันสมัยและได้รับการยอมรับในระดับสากล และเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ไม่ใช่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้ โดยมีเป้าหมายที่ทำให้ระยะเวลาการพัฒนาสินค้าของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สู่ตลาดนั้นสั้นที่สุดในต้นทุนที่ดีที่สุด และเพื่อให้บ้านที่มีคุณภาพที่สุด “สมัยก่อนลูกค้ากลุ่มผู้พัฒนาอสังหาฯ จะเข้าใจว่า Precast มีกระบวนการที่ยาก ใช้เวลาอย่างน้อย 8 เดือนกว่าจะได้บ้านหลังแรก หลังจากที่ผมเปิดโรงงานมา ลูกค้ารายแรกๆ ใช้เวลาแค่ 90 วัน ตอนนี้เหลือ 45-60 วัน และที่เคยทำให้เร็วที่สุดอยู่ที่ 25 วัน หลังจบราคา(แบบที่ไม่เคยมีการสร้างบ้านแบบนั้นๆเลย) ลูกค้าก็มีโครงสร้างบ้านหลังแรกพร้อมทำงานระบบ และงานสถาปัตย์แล้ว ยังไม่นับว่าหากมีการก่อสร้างต่อเนื่อง เฉพาะโครงสร้างบ้านลูกค้าสามารถลดเวลาในส่วนโครงสร้างบ้านได้ถึง 80%” นอกจากความรวดเร็วแล้วยังสามารถลดแรงงานได้ประมาณ 90% คือถ้าจะผลิตบ้าน 2 ชั้นให้ได้ 300 หลัง เฉพาะในส่วนของงานโครงสร้างการก่อสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน (conventional) ใช้คนประมาณ 1,000 คน ระยะเวลาก่อสร้าง 60 วัน/หลัง Precast แบบ manual ใช้คนประมาณ 700 คน ผลิตไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง ระยะเวลาติดตั้ง 10 วัน/หลัง Precast แบบ Automatic ใช้คนประมาณ 100-200 คน ผลิตไม่เกิน 24 ชั่วโมง ระยะเวลาติดตั้ง 7 วัน/หลัง “ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ผลลัพธ์ในเชิงของลูกค้าคือ ลูกค้าให้ความเชื่อใจ ไว้วางใจ ซึ่งเมื่อก่อนความเชื่อใจในระดับนี้ยังน้อย ปัจจุบันลูกค้าของ CPANEL หลายแห่งปฏิบัติกับเราเหมือนเราคือหนึ่งในทีมเค้าแล้ว ทีม CPANEL จะนั่งทำงานคู่กับทีมออกแบบของลูกค้า เพื่อช่วยลดต้นทุนตั้งแต่เริ่มคิดโปรเจค อีกเรื่องคือลักษณะการสั่งซื้อของลูกค้า ส่วนใหญ่เลือก CPANEL อยู่แล้ว แต่ก็มีบางรายที่ลูกค้าต้องซื้อของเจ้าอื่นด้วยเพื่อกระจายความเสี่ยง เพราะไม่อยากผูกขาดไว้กับรายเดียว ซึ่ง CPANEL เป็น Supplier รายแรกที่ลูกค้าไว้วางใจเลือกใช้ เราขอให้เราได้นั่งในตำแหน่ง Preferred Partner” โดยในส่วน CPANEL เราควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ต้นทุนการผลิต ค่าใช้จ่ายต่างๆค่อยๆลดลงมาทุกปี ตั้งแต่เปิดบริษัทมา ผมพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ตลอดเวลา เพื่อให้ต้นทุนลดลงหรือทำงานได้เร็วขึ้น ปัจจุบันจุดคุ้มทุนของ CPANEL ต่ำลงกว่าตอนที่ทำช่วงปีแรกๆ ในขณะที่เงินเดือนพนักงานเพิ่มขึ้นทุกปีซึ่งเป็นสิ่งที่เราภูมิใจ สำหรับ Business model ของ CPANEL “Experience and Words of Mouth” คือประสบการณ์การใช้ Precast ของลูกค้า ใช้แล้วต้องมีคำสั่งซื้อซ้ำและต่อเนื่อง และมีการบอกต่อ ทำให้ฐานลูกค้าของ CPANEL ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ และในฐานะเจ้าของกิจการ ผมต้องการสร้างวัฒนธรรมให้พนักงานพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เรียนรู้เป็นคนที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่ลูกค้าสามารถจะคุยงานกับพนักงานของ CPANEL ได้ทุกคน ข้อดีคือ 1 เป็นการปรับวัฒนธรรมองค์กร 2 ทำให้พนักงานดีลกับลูกค้ารายไหนก็ได้ 3 ทำให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัย เพราะพนักงานของ CPANEL ทุกคนจะออกแบบบ้านในสเปกที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสำหรับสถาปนิกที่ส่วนใหญ่แล้วชอบคนไหนก็จะใช้คนนั้น แต่ CPANEL สามารถทำให้รู้สึกว่าพนักงานทุกคนมีมาตรฐานเดียวกันหมด “CPANEL มีความเป็นไชนิสแฟมิลี่ค่อนข้างมาก ผมพยายามทำให้ พนักงานรู้สึกได้ว่าต้องฝากชีวิตกับเราได้ ถ้าอยู่กับผมต้องมีความเป็นมืออาชีพ ต้องทำงานเป๊ะ ผมมีการวางแผนอาชีพให้พนักงาน มีแนวทางการเติบโตในสายอาชีพ ทักษะอะไรที่ควรต้องมี ก็หาคนมาเทรนนิ่ง รวมถึงดูจุดอ่อนจุดแข็งของพนักงานด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราจะสนับสนุนยังไงให้เขามีพัฒนาการที่ดีกว่าเดิม” ทั้งหมดคือแนวคิดและเคล็ดลับการทำงานที่ผลักดันให้ ชาคริต สร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่วนตัวแล้วชาคริตมีความสุขกับงานที่ทำ และอยากให้สินค้าผนังคอนกรีตสำเร็จรูปของบริษัท เป็นสินค้าที่ผู้ใช้มีความมั่นใจหรือแม้กระทั่งภูมิใจที่ได้ใช้สินค้าของ CPanel คุณชาคริตจึงให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพสูงเสมอ เพราะคนส่วนใหญ่ต้องการสิ่งที่ดีขึ้น เร็วขึ้นตลอดเวลา ซึ่งเป็นพฤติกรรมของลูกค้าในปัจุบัน Precast จึงตอบโจทย์เรื่องนี้ชัดเจน เรียกได้ว่าคร่ำหวอดอยู่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างมากว่า 10 ปี สำหรับผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรงที่มีเป้าหมายไว้พุ่งชน นำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน ผ่านประสบการณ์ ด้วยความตั้งใจและความอดทน เพื่อต้องการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความเป็นผู้นำ พร้อมนำเทคโนโลยีแห่งอนาคต มายกระดับมาตรฐานงานออกแบบและงานก่อสร้างจนเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ